Book,Page,LineNumber,Text 26,0015,001,ได้ตรัสพระสูตรทั้งสิ้นนี้ที่จะพึงตรัสในบัดนี้แก่ภิกษุเหล่านั้น มีอาทิว่า 26,0015,002,กตโม จ ภิกฺขเว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. บรรดาบทเหล่านั้น กตโม จ 26,0015,003,ภิกฺขเว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เป็นกเถตุกัมยตาปุจฉา คำถามเพื่อจะตรัส 26,0015,004,ตอบเอง. 26,0015,005,จริงอยู่

การถามมี ๕

อย่าง คือ การถามส่องความที่ยังไม่เห็น 26,0015,006,การถามเทียบเคียงที่เห็นแล้ว การถามตัดความสงสัย การถามเห็นตาม 26,0015,007,(อนุมัติ ) การถามเพื่อจะตรัสตอบเสียเอง การถาม ๕ อย่างเหล่านั้น มี 26,0015,008,ความต่างกันดังต่อไปนี้ :- 26,0015,009,การถามส่องความที่ยังไม่เห็นเป็นไฉน. ลักษณะแห่งคำถามตาม 26,0015,010,ปกติ อันชนอื่นไม้รู้ ไม่เหิน ไม่ไตร่ตรอง ไม่พิจารณา ไม่แจ่มแจ้ง 26,0015,011,ไม่ไขให้แจ้ง. บุคคลย่อมถามปัญหา เพื่อรู้เห็น ไตร่ตรอง พิจารณา 26,0015,012,แจ่มแจ้ง ไขปัญหานั้นให้เห็นแจ้ง การถามนี้ ชื่อว่าการถามส่องความ 26,0015,013,ที่ยังไม่เห็น. 26,0015,014,การถามเทียบเคียงความที่เห็นแล้วเป็นไฉน. ลักษณะ (คำถาม ) 26,0015,015,ตามปกติ อันตนรู้เห็น ไตร่ตรอง พิจารณา แจ่มแเจ้ง ชัดเจนแล้ว 26,0015,016,บุคคลนั้นย้อมถามปัญหาเพื่อเทียบเคียงกับบัณฑิตเหล่าอื่น. การถามนี้ ชื่อ 26,0015,017,ว่าการถามเทียบเคียงความที่ตนเห็นแล้ว. 26,0015,018,การถามตัดความสงสัยเป็นไฉน ตามปกติบุคคลผู้แล่นไปสู่ความ 26,0015,019,สงสัย. ผู้แล่นไปสู่ความเคลือบแคลง เกิดความคิดแยกเป็น ๒ แพร่งว่า 26,0015,020,อย่างนี้ใช่หรือหนอ หรือมิใช่ หรือเป็นอย่างไร เขาจึงถามปัญหาเพื่อ 26,0015,021,ตัดความสงสัย การถามอย่างนี้ ชื่อว่าการถามตัดความสงสัย. 26,0015,022,การถามเห็นตาม (อนุมัติ ) เป็นไฉน. พระผู้มีพระภาคเจ้า