Book,Page,LineNumber,Text
30,0026,001,เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติ
30,0026,002,และสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนาม
30,0026,003,กาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้
30,0026,004,ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์
30,0026,005,ไม่มีสุข เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสก่อน ๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุ
30,0026,006,ให้สติบริสุทธิ์อยู่ นี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ.
30,0026,007,จบวิภังคสูตรที่ ๘
30,0026,008,
อรรถกถาวิภังคสูตร
30,0026,009,พึงทราบวินิจฉัยในวิภังคสูตรที่ ๘.
30,0026,010,บทว่า กตมา จ ภิกฺขเว สมฺมาทิฏฺิ ความว่า พระผู้มีพระ-
30,0026,011,ภาคเจ้า ทรงจำแนกมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ โดยปริยายนั้นแล้ว ทรง
30,0026,012,เริ่มเทศนานี้ เหมือนทรงประสงค์จะจำแนกโดยปริยายอื่นอีก.
30,0026,013,ในบทเหล่านั้น บทว่า ทุกฺเข าณํ ความว่า ญาณอื่นเกิดขึ้น
30,0026,014,ด้วยอาการ ๔ ด้วยสามารถการฟัง ๑ การพิจารณารอบคอบ ๑ การแทงตลอด ๑
30,0026,015,การพิจารณา ๑. แม้ในสมุทัยก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ส่วนในสองบทที่เหลือ
30,0026,016,(นิโรธและมรรค) ญาณ ๓ อย่างเท่านั้น ย่อมควรเพราะการพิจารณาไม่มี
30,0026,017,กัมมัฏฐานในสัจจะ ๔ นี้ พระองค์ทรงแสดงแล้วด้วยบทว่า ทุกฺเข าณํ
30,0026,018,เป็นต้นด้วยอาการอย่างนี้.
30,0026,019,ในบทเหล่านั้น สัจจะ ๒ ข้างต้น เป็นวัฏฏะ ๒ ข้างปลายเป็น
30,0026,020,วิวัฏฏะ ในวัฏฏะและวิวัฏฏะเหล่านั้น ความยึดมั่นในกัมมัฏฐานของภิกษุมีใน