Book,Page,LineNumber,Text
32,0014,001,ด้วยคำว่า สุตํ ท่านพระอานนท์แสดงความไม่ลืมข้อที่ฟังแล้ว. จริงอยู่
32,0014,002,ผู้ใดฟังแล้วแต่ลืมเสีย ต่อมาผู้นั้นก็รับรองไม่ได้ว่า ข้าพเจ้าฟังมาแล้ว
32,0014,003,ดังนั้นพระอานนท์นั้น ชื่อว่าสำเร็จด้วยปัญญา เพราะความไม่หลง
32,0014,004,ชื่อว่าสำเร็จด้วยสติ เพราะความไม่ลืม บรรดาปัญญา และสตินั้น
32,0014,005,ความที่สติซึ่งมีปัญญาเป็นตัวนำ สามารถจะทรงจำพยัญชนะได้
32,0014,006,ความที่ปัญญาซึ่งมีสติเป็นตัวนำ สามารถเข้าใจอรรถได้ ชื่อว่า
32,0014,007,สำเร็จด้วยความเป็นธรรมภัณฑาคาริก เพราะสามารถอนุรักษ์
32,0014,008,คลังธรรม ซึ่งสมบูรณ์ด้วยอรรถและพยัญชนะ เพราะประกอบด้วย
32,0014,009,ความสามารถทั้ง ๒ อย่างนั้น.
32,0014,010,อีกนัยหนึ่ง ก็ด้วยคำว่า เอวํ ท่านพระอานนท์แสดงความใส่ใจ
32,0014,011,โดยแยบคาย เพราะเมื่อใส่ใจโดยไม่แยบคาย ก็ไม่เข้าใจโดย
32,0014,012,ประการต่าง ๆ ได้ ก็ด้วยคำว่า สุตํ ท่านพระอานนท์แสดงถึง
32,0014,013,ความไม่ฟุ้งซ่าน แม้เขาจะพูดโดยถูกต้องทุกอย่าง ก็กล่าวว่า
32,0014,014,ข้าพเจ้าไม่ได้ยิน ท่านจงกล่าวอีก ก็ด้วยการใส่ใจโดยแยบคาย
32,0014,015,ในข้อนี้ ย่อมให้สำเร็จอัตตสัมมาปณิธิ ความตั้งตนไว้ชอบ และ
32,0014,016,ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้มีบุญอันได้ทำไว้ในปางก่อน เพราะผู้
32,0014,017,ที่ไม่ตั้งตนไว้ชอบ และไม่กระทำบุญไว้ในปางก่อน ก็เป็น
32,0014,018,อย่างอื่นคือไม่มีโยนิโสมนสิการ ด้วยความไม่ฟุ้งซ่าน ก็ให้สำเร็จ
32,0014,019,สัทธัมมัสสวนะ การฟังพระสัทธรรม และสัปปุริสูปสังสยะ การเข้า
32,0014,020,ไปคบหาสัตบุรุษ. เพราะผู้ที่มีจิตฟุ้งซ่านไม่อาจฟัง และเมื่อไม่เข้าไป
32,0014,021,หาสัตบุรุษ การฟังก็ไม่มีแล.