Book,Page,LineNumber,Text
25,0046,001,หรือพวกเราไม่มีความกังวล ย่อมอยู่เป็น
25,0046,002,สุขสบายหนอ พวกเราจักมีปีติเป็นภักษา
25,0046,003,ดุจอาภัสสรเทพ ฉะนั้น.
25,0046,004,ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้
25,0046,005,จักเรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง.
25,0046,006,
อรรถกถาปิณฑิกสูตร
25,0046,007,พึงทราบวินิจฉัยในปิณฑิกสูตรที่ ๘ ต่อไป :-
25,0046,008,บทว่า ปาหุนกานิ ภวนฺติ ความว่า ของขวัญที่พึงส่งไปในที่นั้นๆ
25,0046,009,ในงานนักขัตฤกษ์เห็นปานนั้นหรือไทยทานเป็นบรรณาการสำหรับต้อนรับแขก
25,0046,010,[อาคันตุกะ] ได้ยินว่า วันนั้นเป็นวันเที่ยวเตร่กันตามลำพัง [เสรี] พวกหนุ่มๆ
25,0046,011,ที่มีวัยและชาติเสมอกันอันตระกูลคุ้มครองแล้วก่ออกไปชุมนุมกัน. แม้พวกสาว
25,0046,012,ก็แต่งตัวด้วยเครื่องตกแต่งอันเหมาะแก่สมบัติตน ๆ เที่ยวเตร่กันไปในที่นั้น ๆ
25,0046,013,ในจำพวกหนุ่มสาวเหล่านั้น แม้พวกสาว ๆ ก็ส่งของขวัญ ให้แก่พวกหนุ่ม ๆ ที่
25,0046,014,ตนพอใจ. ถึงพวกหนุ่มๆ ก็ส่งของขวัญให้พวกสาว ๆ เหมือนกัน. เมื่อไม่มีของ
25,0046,015,ขวัญอย่างอื่น โดยที่สุดก็คล้องแม้ด้วยพวงมาลัย. บทว่า อนฺวาวิฏฺา ได้แก่
25,0046,016,เข้าไปสิงแล้ว. ได้ยินว่า วันนั้น พวกสาว ๕๐๐ คน กำลังเดินไปเล่นใน
25,0046,017,สวน พบพระศาสดาสวนทางมาก็พึงถวายขนมอ่อน. พระศาสดาจึงทรงแสดง
25,0046,018,ธรรมเบ็ดเตล็ด เพื่ออนุโมทนาทานของพวกสาวเหล่านั้น. เมื่อจบเทศนา พวก
25,0046,019,สาวทั้งหมดพึงตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ดังนั้น มารจึงเข้าดลใจ ด้วยหมายจักทำ
25,0046,020,อันตรายแก่สมบัตินั้น. แต่ในบาลี ท่านกล่าวไว้เพียงว่า ขอพระสมณโคดม
25,0046,021,อย่าได้อาหารเลย.