Book,Page,LineNumber,Text 31,0049,001,[๙๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขินทรีย์เป็นไฉน ความทุกข์ทาง 31,0049,002,กาย ความไม่สำราญทางกาย เวทนาอันเป็นทุกข์ไม่สำราญ เกิดแต่กายสัมผัส 31,0049,003,นี้ เรียกว่า ทุกขินทรีย์. 31,0049,004,[๙๒๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็โสมนัสสินทรีย์เป็นไฉน ความสุข 31,0049,005,ทางใจ ความสำราญทางใจ เวทนาอันเป็นสุขสำราญเกิดแต่มโนสัมผัส นี้ เรียก 31,0049,006,ว่า โสมนัสสินทรีย์. 31,0049,007,[๙๒๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็โทมนัสสินทรีย์เป็นไฉน ความทุกข์ 31,0049,008,ทางใจ ความไม่สำราญทางใจ เวทนาอันเป็นทุกข์ไม่สำราญ เกิดแต่มโนสัมผัส 31,0049,009,นี้เรียกว่า โทมนัสสินทรีย์. 31,0049,010,[๙๓๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อุเบกขินทรีย์เป็นไฉน เวทนาอัน 31,0049,011,สำราญก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ความสำราญก็ไม่ใช่ ทางกายหรือทางใจ นี้ เรียกว่า 31,0049,012,อุเบกขินทรีย์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล. 31,0049,013,จบปฐมวิภังคสูตรที่ ๖ 31,0049,014,

อรรถกถาปฐมวิภังคสูตร

31,0049,015,ปฐมวิภังคสูตรที่ ๖. คำว่า กายิกํ ทางฺกาย ได้แก่ สุขที่มีกาย 31,0049,016,ประสาทเป็นที่ตั้ง นี้เป็น คำแสดงสรุปของสุขนั้น ด้วยประการฉะนี้. คำว่า 31,0049,017,สาตะ (ความสำราญ) ก็เป็นคำใช้แทนคำว่าสุขนั้นเอง. นี้อธิบายว่าอร่อย. 31,0049,018,คำว่า กายสมฺผสฺสชํ เกิดแต่กายสัมผัส ก็มีทำนองที่กล่าวแล้วว่า ความสุข 31,0049,019,ความสำราญที่เกิดจากกายสัมผัส. คำว่า เวทยิตํ นี้เป็นคำแสดงสภาวะที่วิเศษ 31,0049,020,ของธรรมข้ออื่นจากเวทนาที่ทั่วไปทั้งหมดของสุขนั้น. แม้ในข้อที่เหลือทั้งหลาย