Book,Page,LineNumber,Text 42,0017,001,

เศรษฐีถวายทานตามมีตามได้

42,0017,002,เศรษฐีแม้เป็นผู้อย่างนั้นแล้ว ก็ยังถวายทานแก่สงฆ์เรื่อยไป. แต่ 42,0017,003,ไม่อาจถวายทำให้ประณีตได้. ในวันหนึ่ง เศรษฐี เมื่อพระศาสดารับสั่งว่า 42,0017,004,""" คฤหบดี ก็ทานในตระกูล ท่านยังให้อยู่หรือ ? "" กราบทูลว่า "" พระเจ้าข้า" 42,0017,005,ทานในตระกูล ข้าพระองค์ยังให้อยู่. ก็แลทานนั้น (ใช้) ข้าวปลายเกรียน 42,0017,006,"มีน้ำส้มพะอูมเป็นที่ ๒."" " 42,0017,007,

เมื่อมีจิตผ่องใสทานที่ถวายไม่เป็นของเลว

42,0017,008,"ทีนั้น พระศาสดา ตรัสกะเศรษฐีว่า "" คฤหบดี ท่านอย่าคิดว่า ' เรา" 42,0017,009,"ถวายทานเศร้าหมอง. ' ด้วยว่าเมื่อจิตประณีตแล้ว, ทานที่บุคคลถวายแด่" 42,0017,010,พระอรหันต์ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ชื่อว่าเศร้าหมองย่อมไม่มี. 42,0017,011,คฤหบดี อีกประการหนึ่ง ท่านได้ถวายทานแด่พระอริยบุคคลทั้ง ๘แล้ว; 42,0017,012,ส่วนเราในกาลเป็นเวลาพราหมณ์นั้น กระทำชาวชมพูททวีปทั้งสิ้น ให้พัก 42,0017,013,ไถนา ยังมหาทานให้เป็นไปอยู่ ไม่ได้ทักขิไณยบุคคลไรๆ แม้ผู้ถึงซึ่ง 42,0017,014,ไตรสรณะ. ชื่อว่าทักขิไณยบุคคลทั้งหลาย ยากที่บุคคลจะได้ด้วยประการ 42,0017,015,ฉะนี้. เพราะเหตุนั้น ท่านอย่าคิดเลยว่า 'ทานของเราเศร้าหมอง' ดังนี้ 42,0017,016,แล้ว ได้ตรัสเวลามสูตร แก่เศรษฐีนั้น. 42,0017,017,

เทวดาเตือนเศรษฐีให้เลิกการบริจาค

42,0017,018,ครั้งนั้น เทวดาซึ่งสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูของเศรษฐี เมื่อพระศาสดา 42,0017,019,และสาวกทั้งหลายเข้าไปสู่เรือน. ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้เพราะเดชแห่งพระ- 42,0017,020,"ศาสดาและพระสาวกเหล่านั้น คิดว่า "" พระศาสดาและพระสาวกเหล่านี้จะ"