Book,Page,LineNumber,Text 06,0009,001,ปรากฏไม่ เพราะฉะนั้น ผู้ใดตรึกกามวิตกหรือพยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก 06,0009,002,คนอื่นที่จะโจทผู้นั้นย่อมไม่มี ผู้นั้นต้องโจทคนด้วยคนเองแล้ว เอาห่อ 06,0009,003,แห่งใบไม้ ขนทรายมาเกลี่ยในที่นี้ ด้วยตั้งใจว่า นี่พึงเป็นทัณฑกรรม จำเดิม 06,0009,004,แต่นั้นมาผู้ใดตรึกวิตกเช่นนั้น ผู้นั้นย่อมใช้ห่อแห่งใบไม้ขนทรายมาเกลี่ยในที่ 06,0009,005,นั้น. ด้วยประการอย่างนี้ กองทรายในที่นั้นจึงใหญ่ขึ้นโดยลำดับ. ภายหลังมา 06,0009,006,ประชุมชนในภายหลัง จึงได้แวดล้อมกองทรายใหญ่นั้นทำให้เป็นเจดียสถาน. 06,0009,007,ข้าพเจ้าหมายเอากองทรายนั้นกล่าวว่า บทว่า อุรุเวลายํ ได้แก่ที่แดน 06,0009,008,ใหญ่ อธิบายว่า ที่กองทรายใหญ่. หมายเอากองทรายนั้นเองกล่าวว่า อีก 06,0009,009,"ประการหนึ่ง ทราย เรียกว่าอุรุ, เขตคัน เรียกว่าเวลา. และพึงเห็นความใน" 06,0009,010,บทนี้ อย่างนี้ว่า ทรายที่เขาขนมา เพราะเหตุที่ล่วงเขตคัน ชื่ออุรุเวลา. 06,0009,011,บทว่า โพธิรุกฺขมูเล มีความว่า ญาณในมรรค ๔ เรียกว่า โพธิญาณ 06,0009,012,พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบรรลุโพธิญาณนั้นที่ต้นไม้นี้ เพราะฉะนั้นต้นไม้จึง 06,0009,013,พลายได้นามว่า โพธิพฤกษ์ด้วย ที่โคนแห่งโพธิพฤกษ์นั้นชื่อว่า โพธิรุกขมูล. 06,0009,014,บทว่า ป€มาภิสมพุทฺโธ ได้แก่ แรกตรัสรู้. อธิบายว่า เป็นผู้ 06,0009,015,ตรัสรู้พร้อมเสร็จก่อนทุกอย่างทีเดียว. 06,0009,016,บทว่า เอกปลฺลงฺเกน มีความว่า ประทับนั่ง ด้วยบัลลังก์อันเดียว 06,0009,017,ตามที่ทรงคู้แล้วเท่านั้น ไม่เสด็จลุกขึ้นแม้ครั้งเดียว. 06,0009,018,บทว่า วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที มีความว่า เสวยวิมุตติสุข คือสุขที่เกิด 06,0009,019,แต่ผลสมาบัติ.