Book,Page,LineNumber,Text
06,0011,001,"ว่า อวิชชาเป็นปัจจัย, สังขารทั้งหลายย่อมเกิดพร้อม เพราะอวิชชาอันเป็น "
06,0011,002,ปัจจัยนั้น ความสังเขปในบทว่า มนสากาสิ นี้เท่านี้. ส่วนความพิสดารผู้ต้อง
06,0011,003,การวินิจฉัยที่พร้อมมูลด้วยอาการทุกอย่าง พึงถือเอาจากวิสุทธิมรรค๑ สัมโมห-
06,0011,004,วิโนทนี๒ และอรรถกถาแห่งมหาวิภังค์. และพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงทำใน
06,0011,005,พระหฤหัย โดยปฏิโลมด้วยประการใด เพื่อแสดงประการนี้ ท่านจึงกล่าวคำว่า
06,0011,006,อวิชฺชาย เตฺวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ เป็นต้น.
06,0011,007,ในคำนั้นพึงทราบวินิจฉัยดังนี้ บทว่า อวิชฺชาย เตฺวว ตัดบทว่า
06,0011,008,อวิชฺชาย ตุ เอว.
06,0011,009,บทว่า อเสสวิราคนิโรธา มีความว่า เพราะดับไม่เหลือด้วยมรรค
06,0011,010,กล่าวคือวิราคะ.
06,0011,011,บทว่า สงฺขารนิโรโธ ได้แก่ ความดับ คือความไม่เกิดขึ้นแห่ง
06,0011,012,สังขารทั้งหลาย. ก็แลเพื่อแสดงว่า ความดับแห่งวิญญาณ จะมีก็เพราะดับแห่ง
06,0011,013,สังขารทั้งหลายที่ดับไปแล้วอย่างนั้น และธรรมทั้งหลายมีวิญญาณเป็นต้น. จะ
06,0011,014,เป็นธรรมที่ดับดีแล้วทีเคียว ก็เพราะดับแห่งธรรมทั้งหลายมีวิญญาณเป็นต้น
06,0011,015,ท่านจึงกล่าวคำว่า สงฺขารนิโรธา วิญฺาณนิโรโธ เป็นต้น แล้วกล่าว
06,0011,016,คำว่า กองทุกข์ทั้งสิ้นนี้เป็นอันดับไปด้วยประการอย่างนี้.
06,0011,017,ในบทเหล่านั้น บทว่า เกวลสฺส ได้แก่ทั้งมวลหรือล้วน ความว่า
06,0011,018,ปราศจากสัตว์.
06,0011,019,บทว่า ทุกฺขกฺขนฺธสฺส ได้แก่กองทุกข์.
06,0011,020,สองบทว่า นิโรโธ โหติ มีความว่า ความไม่เกิดย่อมมี.