Book,Page,LineNumber,Text 06,0040,001,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพระดำริว่า เราจะพึงแสดงธรรม 06,0040,002,แก่ใครก่อนหนอ ใครจักรู้ทั่วถึงธรรมนี้ได้ฉับพลัน ครั้นแล้วทรงพระดำริต่อ 06,0040,003,ไปว่าภิกษุปัญจวัคคีย์มีอุปการะแก่เรามาก ได้บำรุงเราผู้ตั้งหน้าบำเพ็ญเพียรอยู่ 06,0040,004,ถ้ากระไรเราพึงแสดงธรรมแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ก่อน ครั้นแล้วได้ทรงพระดำริต่อ 06,0040,005,ไปว่า บัดนี้ภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่ที่ไหนหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเห็น 06,0040,006,ภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่ ณ ป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี ด้วย 06,0040,007,ทิพพจักขุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ ครั้งพระองค์ประทับอยู่ ณ อุรุเวลาประเทศ 06,0040,008,ตามควรแก่พุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จจาริกไปทางพระนครพาราณสี. 06,0040,009,

เรื่องอุปกาชีวก

06,0040,010,[๑ ] อาชีวกชื่ออุปกะได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดำเนินทางไกล 06,0040,011,ระหว่างแม่น้ำคยาและไม้โพธิพฤกษ์ ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า 06,0040,012,ว่า ดูก่อนอาวุโส อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก ผิวพรรณของท่านบริสุทธิ์ 06,0040,013,ผุดผ่อง ดูก่อนอาวุโส ท่านบวชอุทิศใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่าน 06,0040,014,ชอบธรรมของใคร เมื่ออุปกาชีวกกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ 06,0040,015,ตรัสพระคาถาตอบ อุปกาชีวกว่าดังนี้:- 06,0040,016,เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง รู้ 06,0040,017,ธรรมทั้งปวงอันตัณหาและทิฏฐิ ไม่ฉาบทา 06,0040,018,แล้วในธรรมทั้งปวง ละธรรมเป็นไปในภูมิ 06,0040,019,สานได้หมด พ้นแล้วเพราะความสิ้นไปแห่ง 06,0040,020,ตัณหา เราตรัส รู้ยิ่งเองแล้วจะพึงอ้างใครเล่า 06,0040,021,อาจารย์ของเราไม่มี คนเช่นเราก็ไม่มี บุคคล