Book,Page,LineNumber,Text
08,0025,001,
นิยสกรรม ที่ ๒
08,0025,002,เรื่องพระเสยยสกะ
08,0025,003,[๔๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระเสยยสกะเป็นพาล ไม่ฉลาด มี
08,0025,004,อาบัติมาก มีมรรยาทไม่สมควร อยู่คลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการคลุกคลีอันไม่
08,0025,005,สนควร ทั้งที่ปกตัตตะภิกษุทั้งหลายให้ปริวาส ชักเข้าหาอาบัติเติม ให้มานัต
08,0025,006,อัพภานอยู่ บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
08,0025,007,ว่า ไฉนเล่าท่านพระเสยยสกะจึงได้เป็นพาล ไม่ฉลาด มีอาบัติมาก มี
08,0025,008,มารยาทไม่สมควร อยู่คลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการคลุกคลีอันไม่สมควร ทั้งที่
08,0025,009,ปกตัตตะภิกษุทั้งหลายให้ปริวาส ชักเข้าหาอาบัติเดิม ให้มานัต อัพภาน
08,0025,010,อยู่เล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
08,0025,011,ประชุมสงฆ์ทรงสอบถาม
08,0025,012,[๔๔] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ใน
08,0025,013,เพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุเเรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุ
08,0025,014,ทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ภิกษุเสยยสกะเป็นพาล ไม่
08,0025,015,ฉลาดมีอาบัติมาก มีมารยาทไม่สมควร อยู่คลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการ
08,0025,016,คลุกคลีอัน ไม่สมควร ทั้งที่ปกตัตตะภิกษุทั้งหลายให้ปริวาส ชักเข้าหาอาบัติ
08,0025,017,เดิม ให้มานัต อัพภานอยู่ จริงหรือ?
08,0025,018,ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
08,0025,019,ทรงติเตียน
08,0025,020,พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การ
08,0025,021,กระทำของโมฆบุรุษนั้น ไม่เหมาะไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ
08,0025,022,ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.