Book,Page,LineNumber,Text 08,0038,001,๓. ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก 08,0038,002,๔. ไม่พึงรับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี 08,0038,003,๕. แม้ได้รับสมมติไว้แล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี 08,0038,004,๖. ถูกสงฆ์ลงนิยสกรรมเพราะอาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น 08,0038,005,๗. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน 08,0038,006,๘. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น 08,0038,007,๙. ไม่พึงติกรรม 08,0038,008,๑๐. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม 08,0038,009,๑๑. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ 08,0038,010,๑๒. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ 08,0038,011,๑๓ . ไม่พึงทำการไต่สวน 08,0038,012,๑๔ . ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์ 08,0038,013,๑๕ . ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส 08,0038,014,๑๖ . ไม่พึงโจทภิกษุอื่น 08,0038,015,๑๗. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ 08,0038,016,๑๘. ไม่พึงช่วยภิกษุต่อภิกษุให้สู้อธิกรณ์กัน 08,0038,017,วัตร ๑๘ ข้อ ในสิยสกรรม จบ 08,0038,018,

วัตรที่ควรระงับและไม่ควรระงับ

08,0038,019,[๗๖] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงนิยสกรรมแก่พระเสยยสกะแล้ว คือให้ 08,0038,020,กลับถือนิสัยอีก เธอถูกสงฆ์ลงนิยสกรรมแล้ว ซ่องเสพคบหานั่งใกล้กัลยาณ- 08,0038,021,มิตรขอให้แนะนำ ไต่ถาม ได้เป็นพหูสูต ช่ำชอง ในคัมภีร์ ทรงธรรม