Book,Page,LineNumber,Text 13,0022,001,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พระวิปัสสีราชกุมารผู้ประสูติแล้วแล ไม่กะพริบ 13,0022,002,พระเนตรเพ่งแลดู ภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ไม่กะพริบเนตรเพ่ง 13,0022,003,แลดูแม้ฉันใด พระวิปัสสีราชกุมาร ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไม่กะพริบพระเนตร 13,0022,004,เพ่งแลดู. 13,0022,005,ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมญาว่า วิปัสสี ดังนี้แล ได้บังเกิดขึ้นแล้วแก่ 13,0022,006,พระวิปัสสีราชกุมารผู้ประสูติแล้วแล. 13,0022,007,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระเจ้าพันธุมประทับนั่งในศาลสำหรับ 13,0022,008,พิพากษาคดี ให้พระวิปัสสีราชกุมารมานั่งบนพระเพลาไต่สวนคดีอยู่. 13,0022,009,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า พระวิปัสสีราชกุมารประทับนั่งบนพระ 13,0022,010,เพลาของพระชนก ณ ศาลาสำหรับพิพากษาคดีนั้น ทรงสอดส่องพิจารณาคดี 13,0022,011,แล้ว ย่อมทรงทราบได้ด้วยพระญาณ. ภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น สมญาว่า วิปัสสี 13,0022,012,ดังนี้แล ได้บังเกิดขึ้นแล้วแก่พระวิปัสสีราชกุมารนั้น โดยยิ่งกว่าประมาณ ลำดับ 13,0022,013,นั้นแล พระเจ้าพันธุมได้โปรดให้สร้างปราสาทสำหรับพระวิปัสสีราชกุมาร ๓ 13,0022,014,หลัง คือ หลังหนึ่งสำหรับประทับในฤดูฝน หลังหนึ่งสำหรับประทับในฤดูหนาว 13,0022,015,อีกหลังหนึ่งสำหรับประทับในฤดูร้อน โปรดให้บำรุงพระราชกุมารด้วยเบญจ- 13,0022,016,กามคุณ ได้ยินว่า พระวิปัสสีราชกุมารได้รับการบำรุงบำเรอด้วยดนตรีไม่มี 13,0022,017,บุรุษปนตลอด ๔ เดือนในปราสาทสำหรับประทับในฤดูฝน ในบรรดาปราสาท 13,0022,018,ทั้ง ๓ หลังนั้น มิได้เสด็จลงสู่ปราสาทชั้นล่างเลย ดังนี้แล. 13,0022,019,จบภาณวารที่หนึ่ง 13,0022,020,[๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนี้แล โดยกาลล่วงไปหลายปี หลายร้อย 13,0022,021,ปี หลายพันปี พระวิปัสสีราชกุมารได้ตรัสเรียกนายสารถีมาสั่งว่า นายสารถี 13,0022,022,ผู้สหาย เธอจงเทียมยานที่ดี ๆ เราจะไปสวนเพื่อชมพื้นที่อันสวยสด ภิกษุ