Book,Page,LineNumber,Text 13,0026,001,นายสารถีผู้สหาย ถึงตัวเราก็จะต้องมีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วง 13,0026,002,พ้นความเจ็บไปได้หรือ. 13,0026,003,ขอเดชะ พระองค์และข้าพระพุทธเจ้า ล้วนจะต้องมีความเจ็บเป็น 13,0026,004,ธรรมดาไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้. 13,0026,005,นายสารถีผู้สหาย ถ้าเช่นนั้น วันนี้พอแล้วสำหรับ ภูมิภาคแห่งสวน เธอ 13,0026,006,จงนำเรากลับ ไปวังจากสวนนี้เถิด. 13,0026,007,นายสารถีรับสั่งของพระวิปัสสีราชกุมารแล้ว ได้นำเสด็จกลับไปยังวัง 13,0026,008,จากพระอุทยานนั้น ๆ 13,0026,009,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ครั้งนั้น พระวิปัสสีราชกุมารเสด็จถึงวัง 13,0026,010,แล้ว ทรงเป็นทุกข์เศร้าพระทัย ทรงพระดำริว่า ผู้เจริญ ได้ยินว่า ขึ้นชื่อว่าความ 13,0026,011,เกิดเป็นของน่ารังเกียจ เพราะธรรมดาว่า เมื่อความเกิดมีอยู่ ความแก่จักปรากฏ 13,0026,012,ความเจ็บจักปรากฏ แก่ผู้ที่เกิดมาแล้ว. 13,0026,013,[๓๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระเจ้าพันธุมรับสั่งหานาย 13,0026,014,สารถีมาตรัสถามว่า นายสารถีผู้สหาย ราชกุมารได้อภิรมย์ในภูมิภาคแห่งสวนแล 13,0026,015,หรือ นายสารถีผู้สหาย ราชกุมารพอพระทัยในภูมิภาคแห่งสวนแลหรือ นาย 13,0026,016,สารถีกราบทูลว่า ขอเดชะ พระราชกุมารมิได้ทรงอภิรมย์ในภูมิภาคแห่งพระ - 13,0026,017,อุทยาน ขอเดชะ พระราชกุมารมิได้ทรงพอพระทัยในภูมิภาคแห่งพระอุทยาน 13,0026,018,ดังนี้ ตรัสถามต่อไปว่า นายสารถีผู้สหาย ก็ราชกุมารขณะเมื่อเสด็จประพาสสวน 13,0026,019,ได้ทอดพระเนตรอะไรเข้า. 13,0026,020,นายสารถีกราบทูลว่า ขอเดชะ พระราชกุมารขณะเมื่อเสด็จประพาส 13,0026,021,พระอุทยาน ได้ทอดพระเนตรคนเจ็บ ถึงความลำบาก เป็นไข้หนัก นอนจม 13,0026,022,อยู่ในมูตรและกรีสของตน บุคคลอื่น ๆ ต้องช่วยพยุงให้ลุก ผู้อื่นต้องช่วยให้ 13,0026,023,กินครั้นทอดพระเนตรแล้ว ได้รับสั่งถามข้าพระพุทธเจ้าว่า นายสารถีผู้สหาย