Book,Page,LineNumber,Text
13,0038,001,ดับ    เวทนาจึงดับ   ดังนี้   ได้มีแล้วแก่พระวิปัสสีโพธิสัตว์  เพราะทรงกระทำไว้ 
13,0038,002,ในพระทัยโดยอุบายอันแยบคาย.
13,0038,003,ดูกรภิกษุทั้งหลาย   ต่อแต่นั้น  พระวิปัสสีโพธิสัตว์ทรงพระดำริว่า  เมื่อ
13,0038,004,อะไรไม่มีเล่าหนอ  ผัสสะจึงไม่มี   เพราะอะไรดับ   ผัสสะจึงดับ   ภิกษุทั้งหลาย
13,0038,005,ครั้งนั้นแล  การตรัสรู้ด้วยปัญญาว่า  เมื่อสฬายตนะไม่มี  ผัสสะย่อมไม่มี  เพราะ
13,0038,006,สฬายตนะดับ  ผัสสะจึงดับ   ดังนี้   ได้มีแล้วแก่พระวิปัสสีโพธิสัตว์   เพราะทรง
13,0038,007,กระทำไว้ในพระทัยโดยอุบายอันแยบคาย.
13,0038,008,ดูกรภิกษุทั้งหลาย   ต่อแต่นั้น    พระวิปัสสีโพธิสัตว์ทรงพระดำริว่า
13,0038,009,เมื่ออะไรไม่มีเล่าหนอ  สฬายตนะจึงไม่มี    เพราะอะไรดับ   สฬายตนะจึงดับ
13,0038,010,ภิกษุทั้งหลาย  ครั้งนั้นแล   การตรัสรู้ด้วยปัญญาว่า  เมื่อนามรูปไม่มี  สฬายตนะ
13,0038,011,ย่อมไม่มี     เพราะนามรูปดับ    สฬายตนะจึงดับ   ดังนี้   ได้มีแล้วแก่พระวิปัสสี
13,0038,012,โพธิสัตว์  เพราะทรงกระทำไว้ในพระทัยโดยอุบายอันแยบคาย.
13,0038,013,ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ต่อแต่นั้น     พระวิปัสสีโพธิสัตว์ทรงพระดำริว่า
13,0038,014,เมื่ออะไรไม่มีเล่าหนอ  นามรูปจึงไม่มี   เพราะอะไรดับ  นามรูปจึงดับ ภิกษุทั้ง
13,0038,015,หลาย  ครั้งนั้นแล  การตรัสรู้ด้วยปัญญาว่า  เมื่อวิญญาณไม่มี  นามรูปย่อมไม่มี
13,0038,016,เพราะวิญญาณดับ  นามรูปจึงดับ    ดังนี้    ได้มีแล้วแก่พระวิปัสสีโพธิสัตว์  เพราะ
13,0038,017,ทรงกระทำไว้ในพระทัยโดยอุบายอันแยบคาย.
13,0038,018,ดูกรภิกษุทั้งหลาย    ต่อแต่นั้น     พระวิปัสสีโพธิสัตว์ทรงพระดำริว่า
13,0038,019,เมื่ออะไรไม่มีเล่าหนอ  วิญญาณจึงดับ  ภิกษุทั้งหลาย  ครั้งนั้นแล การตรัสรู้ด้วย
13,0038,020,ปัญญาว่า  เมื่อนามรูปไม่มี  วิญญาณย่อมไม่มี   เพราะนามรูปดับ   วิญญาณจึง
13,0038,021,ดับ  ดังนี้  ได้มีแล้วแก่พระวิปัสสิโพธิสัตว์   เพราะทรงกระทำไว้ในพระทัยโดย
13,0038,022,อุบายอันแยบคาย.