Book,Page,LineNumber,Text 13,0043,001,ได้ทรงเห็นหมู่สัตว์ บางพวกมีกิเลสเพียงดังธุลีในจักษุน้อย บางพวกมีกิเลส 13,0043,002,เพียงดังธุลีในจักษุมาก บางพวกมีอินทรีย์แก่กล้า บางพวกมีอินทรีย์อ่อน บาง 13,0043,003,พวกมีอาการดี บางพวกมีอาการทราม บางพวกจะพึงให้รู้แจ้งได้ง่าย บางพวก 13,0043,004,จะพึงให้รู้แจ้งได้ยาก บางพวกเป็นภัพพสัตว์ บางพวกเป็นอภัพพสัตว์ บางพวก 13,0043,005,มักเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัย. 13,0043,006,ในกออุบล หรือกอบัวหลวง หรือในกอบัวขาว ดอกอุบล ดอกบัว 13,0043,007,หลวงหรือดอกบัวขาว เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ น้ำเลี้ยงอุปถัมภ์ไว้ บาง 13,0043,008,เหล่ายังจมอยู่ภายในน้ำ บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ บางเหล่าตั้งขึ้นพ้นน้ำ อันน้ำ 13,0043,009,มิได้ติดใบ แม้ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย หมู่สัตว์ที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา- 13,0043,010,พุทธเจ้า พระนามว่าวิปัสสี ทรงตรวจดูด้วยพุทธจักษุ ทรงเห็นก็ฉันนั้นเหมือน 13,0043,011,กัน บางพวกมีกิเลสเพียงดังธุลีในจักษุน้อย บางพวกมีกิเลสเพียงดังธุลีในจักษุ 13,0043,012,มาก บางพวกมีอินทรีย์แก่กล้า บางพวกมิอินทรีย์อ่อน บางพวกมีอาการดี 13,0043,013,บางพวกมีอาการทราม บางพวกจะพึงให้รู้แจ้งได้ง่าย บางพวกจะพึงให้รู้แจ้ง 13,0043,014,ได้ยาก บางพวกเป็นภัพพสัตว์ บางพวกเป็นอภัพพสัตว์ บางพวกมักเห็น 13,0043,015,ปรโลกและโทษโดยความเป็นภัย. 13,0043,016,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวมหาพรหมทราบพระปริวิตกใน 13,0043,017,พระทัยของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ด้วยใจ 13,0043,018,แล้วจึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี 13,0043,019,ด้วยคาถาทั้งหลายความว่า 13,0043,020,[๔๕] ผู้ที่ยืนอยู่ยอดเขาสิลาล้วน พึงเห็นประชุมชน 13,0043,021,โดยรอบ ฉันใด ท่านผู้มีเมธาดีมีจักษุโดยรอบ 13,0043,022,ฉันนั้นเหมือนกัน ขึ้นสู่ปราสาทอันสำเร็จแล้วด้วย 13,0043,023,ธรรม เป็นผู้ปราศจากความเศร้าโศก ทรงพิจารณา