Book,Page,LineNumber,Text
13,0044,001,เห็นประชุมชนผู้เกลื่อนกล่นไปด้วยความเศร้าโศก
13,0044,002,ถูกชาติและชราครอบงำแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้กล้า
13,0044,003,ผู้ชนะสงครามแล้ว เป็นนายพวก ปราศจากหนี้
13,0044,004,ขอพระองค์จงเสด็จลุกขึ้น เปิดเผยโลก
13,0044,005,ขอผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรม
13,0044,006,ที่รู้ที่ทั่วถึงธรรมได้ ยังจักมี.
13,0044,007,[๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อท้าวมหาพรหมนั้นได้กราบทูลแล้ว ดังนี้
13,0044,008,พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี จึงได้ตรัสกะท้าวมหา
13,0044,009,พรหมนั้นด้วยพระคาถาว่า
13,0044,010,เราได้เปิดเผยประตูอมตะไว้สำหรับท่านแล้ว ผู้มีโสต
13,0044,011,จงปล่อยศรัทธามาเถิด ดูกรพรหม เรารู้สึกลำบาก
13,0044,012,จึงมิได้กล่าวธรรมอันประณีตซึ่งเราให้คล่องแคล่วแคล้ว
13,0044,013,ในหมู่มนุษย์ ดังนี้.
13,0044,014,[๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวมหาพรหมคิดว่า เราเป็นผู้
13,0044,015,มีโอกาส อันพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ได้
13,0044,016,ทรงกระทำแล้ว เพื่อจะทรงแสดงธรรม จึงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคอรหันต-
13,0044,017,สัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี กระทำประทักษิณแล้วหายไป ณ ที่นั้นเอง.
13,0044,018,[๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา-
13,0044,019,สัมพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี ทรงพระดำริว่า เราควรแสดงธรรมแก่ใครก่อน
13,0044,020,เล่าหนอ ใครจะรู้ทั่วถึงธรรมนี้ได้เร็วพลันทีเดียว ภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล
13,0044,021,พระผู้มีภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ได้ทรงพระดำริว่า พระ-
13,0044,022,ราชโอรสพระนามว่าขัณฑะ และบุตรปุโรหิตชื่อว่า ติสสะนี้ ผู้อาศัยอยู่ใน
13,0044,023,พระนครพันธุมดีราชธานีเป็นคนฉลาด เฉียบแหลม มีปัญญา มีกิเลสเพียงดัง