Book,Page,LineNumber,Text 15,0013,001,ว่า เราไม่ละวาจา จิต และสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็พึงไปพบเห็นพระ 15,0013,002,สมณโคดมได้ ดังนี้ แม้ศีรษะเขาจะพึงแตกออก. 15,0013,003,สุนักขัตตะ ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาค 15,0013,004,ทรงรักษาพระวาจานั้น ขอพระสุคตทรงรักษาพระวาจานั้น. 15,0013,005,เรากล่าวว่า ดูก่อนสุนักขัตตะ ก็ ไฉนเธอจึงกล่าวกะเราอย่าง 15,0013,006,นี้ว่า ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคทรงรักษาพระวาจานั้น 15,0013,007,ขอพระสุคตทรงรักษาพระวาจานั้น. 15,0013,008,สุนักขัตตะทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะพระผู้มีพระ 15,0013,009,ภาคตรัสวาจาโดยแน่นอนว่า นักบวชเปลือยชื่อปาฏิกบุตร เมื่อไม่ละวาจา 15,0013,010,จิตและสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็ไม่สามารถจะมาพบเห็นเราได้ แม้ถ้าเขา 15,0013,011,พึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราไม่ละวาจา จิต และสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็พึงไป 15,0013,012,พบเห็นพระสมณโคดมได้ ดังนี้ แม้ศีรษะเขาพึงแตกออก ดังนี้ ข้าแต่ 15,0013,013,พระองค์ผู้เจริญ ก็นักบวชเปลือยชื่อปาฏิกบุตร อาจแปลงรูปมาพบเห็น 15,0013,014,พระผู้มีพระภาคก็ได้ พระดำรัสเช่นนั้นของพระผู้มีพระภาคก็เป็นมุสา. 15,0013,015,เรากล่าวว่า ดูก่อนสุนักขัตตะ ตถาคตเคยกล่าววาจาที่เป็นสอง 15,0013,016,ไว้บ้างหรือ. 15,0013,017,สุนักขัตตะ ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาค 15,0013,018,ทรงทราบ นักบวชเปลือยชื่อปาฏิกบุตรโดยแจ้งชัดด้วยพระหฤทัยว่า เขา 15,0013,019,เมื่อไม่ละวาจา จิต และสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะมาพบ 15,0013,020,เห็นเราได้ ถ้าแม้เขาพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราไม่ละวาจา จิต และสละ 15,0013,021,คืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็พึงไปพบเห็นพระสมณโคดมได้ ดังนี้ แม้ศีรษะเขาจะ 15,0013,022,พึงเตกออกหรือเทวดามาทูลความนั้นแด่พระผู้มีพระภาคว่า เขาเมื่อไม่ 15,0013,023,ละวาจา จิต ละสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะมาพบเห็น 15,0013,024,พระองค์ได้ แม้ถ้าเขาพึงคิดเห็นอย่างไรว่า เราไม่ละวาจา จิต สละสละ