Book,Page,LineNumber,Text
15,0040,001,สุนัข ทำกิริยาของสุนัขแม้อย่างอื่นอีก. บทว่า จตุโกณฺฑิโก คือเดินสี่
15,0040,002,ขา ได้แก่คู้เข่าสองข้างและศอกสองข้างลงบนพื้นเดินเที่ยวไป. บทว่า
15,0040,003,ฉมานิกิณฺณํ ได้แก่ ที่เรี่ยราย ใส่ไว้ วางไว้ บนพื้น. บทว่า ภกฺขสํ
15,0040,004,ได้แก่อาหาร คือของเคี้ยว ของบริโภคอย่างใดอย่างหนึ่ง. บทว่า มุเขเนว
15,0040,005,คือ มิได้ใช้มือหยิบอาหาร ใช้ปากอย่างเดียวเคี้ยวอาหารที่พึงเคี้ยว แม้
15,0040,006,อาหารที่พึงบริโภค. ก็ใช้ปากอย่างเดียวบริโภค. บทว่า สาธุรูโป ได้แก่
15,0040,007,มีรูปงาม. บทว่า อรหํ สมโณ ได้แก่ สมณะผู้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง.
15,0040,008,ศัพท์ว่า วต ในบาลีนั้น เป็นนิบาต ลงในอรรถแห่งความปรารถนา.ได้
15,0040,009,ยินว่า พระราชกุมารนั้น มีความปรารถนาอย่างนี้ว่า นักบวชอื่นที่จะจัด
15,0040,010,ว่าเป็นสมณะเช่นสมณะรูปนี้ ไม่มี เพราะสมณะรูปนี้ไม่นุ่งผ้า เพราะเป็น
15,0040,011,ผู้ มีความปรารถนาน้อย มีความสำคัญว่า สิ่งนี้เป็นเหตุให้เกิดความเนิ่นช้า
15,0040,012,จึงไม่ใช้แม้ภาชนะสำหรับใส่อาหาร กินอาหารที่กองอยู่บนพื้นเท่านั้น
15,0040,013,นักบวชรูปนี้จัดว่าเป็นสมณะ ส่วนพวกเราจะเป็นสมณะได้อย่างไร. สาวก
15,0040,014,ผู้เดินตามหลังพระพุทธเจ้าผู้เป็นสัพพัญญูอย่างนี้ ได้มีความนึกคิดชั่วเช่นนี้.
15,0040,015,คำว่า เอตทโวจ อธิบายว่า ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาค ทรง
15,0040,016,ดำริว่า สุนักขัตตะ ผู้มีอัธยาศัยทรามนี้ เป็นนักบวชนี้แล้วคิดอย่างไรหนอ
15,0040,017,ครั้นทรงดำริอย่างนี้ ทรงทราบอัธยาศัยของเขา ทรงพิจารณาเห็นว่า
15,0040,018,โมฆบุรุษผู้นี้ เดินตามหลังของพระสัพพัญญูเช่นเรา ไปสำคัญนักบวชผู้
15,0040,019,เปลือยกายว่าเป็นพระอรหันต์ บัดนี้ คนพาลผู้นี้ ควรถูกตำหนิโทษ ณ ที่
15,0040,020,นี้แหละ ยังไม่ทันได้เสด็จกลับเลย ได้ตรัสคำว่า ตฺวํปิ นาม เป็นต้นนี้.
15,0040,021,ปิ ศัพท์ในคำว่า ตฺวํปิ นาม นั้น ลงในอรรถว่า ติเตียน. เพราะพระผู้มี
15,0040,022,"พระภาค เมื่อทรงติเตียนสุนักขัตตะ ได้ตรัสคำว่า ''ตฺวํปิ นาม"". ในคำ"
15,0040,023,นี้ มีคำอธิบายดังนี้ ว่าแม้ตัวเธอมีอัธยาศัยทรามขนาดนี้ ยังจักปฏิญาณอย่าง
15,0040,024,นี้ว่า เราเป็นสมณะ ผู้เป็นศากยบุตร อีกหรือ. ด้วยคำว่า กึ ปน เม