Book,Page,LineNumber,Text
18,0015,001,แก่สมณโคดมแก่สาวกของสมณโคดมนั้นด้วย จงให้จงทำแก่พวกเราและแก่
18,0015,002,สาวกของพวกเราด้วย สมณโคดมอุบัติแล้วตลอดวันก่อน ๆ มิใช่หรือ แต่
18,0015,003,พวกเราเมื่อเกิดขึ้นในโลกเทียว ก็ได้เกิดแล้วดังนี้. ลำดับนั้น บริษัทสี่ คือ
18,0015,004,ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ได้ฟังเสียงของเดียรถีย์เหล่านั้นแล้ว กราบ
18,0015,005,ทูลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เดียรถีย์ทั้งหลาย กล่าวคำ
18,0015,006,นี้และคำนี้ ดังนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสดับคำนั้นแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
18,0015,007,ทั้งหลาย พวกเธออย่าสำคัญว่า สมณะมีในที่อื่น ตามคำพวกเดียรถีย์ เมื่อ
18,0015,008,จะทรงปฏิเสธความเป็นสมณะในอัญญเดียรถีย์ทั้งหลาย และเมื่อจะทรงอนุญาต
18,0015,009,ความเป็นสมณะในศาสนานี้เท่านั้น จึงตรัสพระสูตรแห่งความเกิดขึ้นของเรื่องนี้
18,0015,010,อย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะมีในศาสนานี้เท่านั้น.
18,0015,011,ในบทนั้น บทว่า อิเธว คือ ในศาสนานี้เท่านั้น. ก็ความจำกัดนี้
18,0015,012,พึงทราบแม้ในบทที่เหลือ. ก็สมณะทั้งหลายแม้มีสมณะที่ ๒ เป็นต้น ก็มีใน
18,0015,013,ศาสนานี้เท่านั้น ไม่มีในที่อื่น. บทว่า สมโณ ได้แก่ พระโสดาบัน. ด้วย
18,0015,014,เหตุนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะเป็นไฉน
18,0015,015,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม เป็น
18,0015,016,โสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีการตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า
18,0015,017,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้สมณะ. สกทาคามี ชื่อว่า สมณะที่ ๒. ด้วยเหตุนั้นแล
18,0015,018,พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะที่ ๒เป็นไฉน ดูก่อน
18,0015,019,ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้เป็นสกทาคามี เพราะสังโยชน์สามสิ้นไป
18,0015,020,เพราะความที่ราคะ โทสะ และโมหะ เบาบางกลับมาสู่โลกนี้ ครั้งเดียวเท่านั้น
18,0015,021,ก็จะทำที่สุคแห่งทุกข์ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้สมณะที่ ๒ ดังนี้. พระอนาคามี
18,0015,022,ชื่อว่า สมณะที่ ๓. ด้วยเหตุนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
18,0015,023,ทั้งหลาย ก็สมณะที่ ๓ เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ เพราะ