Book,Page,LineNumber,Text
18,0032,001,จงยืนมองดูพระอาทิตย์อย่างเดียว. ก็แลสุนัขจิ้งจอก ครั้นพูดอย่างนี้แล้ว ก็
18,0032,002,เข้าไปสู่ป่าการะเกต หนีไปตามชอบใจ. ฝ่ายพราหมณ์มองดูพระอาทิตย์นั้น
18,0032,003,เทียว จนเหงื่อไหลออกจากหน้าผาก เเละรักแร้. ลำดับนั้น รุกขเทวดาได้
18,0032,004,กล่าวกะพราหมณ์นั้นว่า
18,0032,005,ดูก่อนพราหมณ์ ท่านเชื่อสุนัขจิ้งจอก
18,0032,006,ดื่มสุรา สุนัขจิ้งจอกทั้งร้อยไม่มีศิลปะ
18,0032,007,กหาปณะตั้งสองร้อยจะมีแต่ที่ไหน.
18,0032,008,ด้วยประการฉะนี้ ความเลื่อมใสในกาณสิงคาล ไร้ประโยชน์ ฉันใด
18,0032,009,ความปีติอย่างดีในเดียรถีย์ ก็ไร้ประโยชน์ฉันนั้น.
18,0032,010,พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดงความที่ความเลื่อมใสในศาสนาที่ไม่
18,0032,011,เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ เป็นสิ่งไร้ประโยชน์แล้ว เพื่อทรงแสดงความที่
18,0032,012,เลื่อมใสนั้นในศาสนาที่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ว่า เป็นสิ่งมีประโยชน์ จึง
18,0032,013,ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ตถาคตแล ดังนี้เป็นต้น. บรรดาบทเหล่านั้น
18,0032,014,บทว่า กามูปาทานสฺส ปริญฺํ ปญฺาเปติ ความว่า ทรงบัญญัติความ
18,0032,015,รอบรู้ในการละ คือ การก้าวล่วงกามูปาทาน ด้วยอรหัตตมรรค ทรงบัญญัติ
18,0032,016,ความรอบรู้อุปทาน ๓ อย่างนอกนี้ ด้วยโสดาปัตติมรรค. บทว่า เอวรูเป
18,0032,017,โข ภิกฺขเว ธมฺมวินเย ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรมและวินัย
18,0032,018,เห็นปานนี้ ทรงแสดงศาสนาที่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ด้วยบทแม้ทั้งสอง.
18,0032,019,บทว่า สตฺถริ ปสาโท ความว่า ในศาสนาเห็นปานนี้ ความเลื่อมใสใน
18,0032,020,พระศาสดาใด ความเลื่อมใสนั้น เรากล่าวว่า ไปแล้วโดยชอบ คือ ย่อมเป็น
18,0032,021,ไปเพื่อสลัดออกจากทุกข์ในภพ. ในข้อนั้นมีเรื่องเหล่านี้.