Book,Page,LineNumber,Text 20,0022,001,บทว่า ยาว สุปญฺตฺตา คือสติปัฏฐาน ๔ พระองค์ทรงตั้งไว้ด้วยดี 20,0022,002,แล้ว คือ ทรงแสดงดีแล้ว. ด้วยบทว่า มยํปี หิ ภนฺเต นี้ เปสสะบุตรควาญ 20,0022,003,ช้างนั้นแสดงถึงความที่ตนเป็นผู้ทำการงาน และยกภิกษุสงฆ์ขึ้น. ในข้อนี้มีอธิ- 20,0022,004,บายดังต่อไปนี้. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่จริงแม้พวกข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์นุ่ง 20,0022,005,ผ้าขาว ฯ ล ฯ เป็นผู้มีจิตตั้งมั่นดีแล้วอยู่. การไถ พืช แอก คันไถและผาลไถนา 20,0022,006,นี้มิได้มีแก่ภิกษุสงฆ์ เพราะฉะนั้นภิกษุสงฆ์จึงมุ่งต่อสติปัฏฐานตลอดกาล. 20,0022,007,ส่วนพวกข้าพระองค์ได้โอกาสตามกาลสมควรแล้วจึงทำมนสิการนี้. แม้พวก 20,0022,008,ข้าพระองค์จะเป็นผู้ทำการงาน ก็ไม่สละกรรมฐานด้วยประการทั้งปวง. 20,0022,009,บทว่า มนุสฺสคหเน มนุษย์รกชัฏ คือ เพราะถือเอาความรกชัฏ 20,0022,010,ของอัธยาศัยแห่งมนุษย์ทั้งหลาย. พึงทราบว่าความที่ถือเอาแม้อัธยาศัยของ 20,0022,011,มนุษย์เหล่านั้นด้วยความรกชัฏด้วยกิเลส. แม้ในอัธยาศัยเดนกากและอัธยาศัย 20,0022,012,โอ้อวดก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ในอัธยาศัยเหล่านั้น พึงทราบความที่อัธยาศัยชื่อว่า 20,0022,013,เดนกาก เพราะอรรถว่าไม่บริสุทธิ์. อัธยาศัยชื่อว่า โอ้อวด เพราะอรรถว่า 20,0022,014,หลอกลวง. 20,0022,015,บทว่า สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานาติ พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงรู้ 20,0022,016,ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของสัตว์ทั้งหลายคือพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบ 20,0022,017,ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของมนุษย์ทั้งหลายด้วยดี เหมือนอย่างทรงทราบ 20,0022,018,รกชัฏ เดนกากและความหลอกลวงของมนุษย์ฉะนั้น. ในบทว่า ยทิทํ ปสโว 20,0022,019,นี้ท่านประสงค์เอาสัตว์ ๒ เท้าแม้ทั้งหมด. 20,0022,020,บทว่า ปโหมิ คือสามารถ. บทว่า ยาวตฺตเกน อนฺตเรน โดยระหว่าง 20,0022,021,ประมาณเท่าใด คือโดยขณะเท่าไร. บทว่า จมฺปํ คตาคตํ กริสฺสติ จัก 20,0022,022,ทำนครจัมปาให้เป็นที่ไปมาคือจักทำการไปและการมาตั้งแต่โรงม้าจนถึง