Book,Page,LineNumber,Text 21,0025,001,ประนมอัญชลีไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 21,0025,002,บางพวกประกาศชื่อและโคตรในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่ง ณ ที่ควร 21,0025,003,ส่วนข้างหนึ่ง บางพวกนิ่งอยู่แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. พระผู้มีพระภาคเจ้า 21,0025,004,ทรงยังพราหมณ์และคฤหบดีชาวถุลลโกฏฐิตนิคม ผู้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง 21,0025,005,ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้รื่นเริงด้วยธรรมีกถา. 21,0025,006,

รัฐปาละขอบรรพชา

21,0025,007,[๔๒๕] สมัยนั้น กุลบุตรชื่อรัฐปาลรัฐปาละ เป็นบุตรของสกุลเลิศ ใน 21,0025,008,ถุลลโกฏฐิตนิคมนั้น นั่งอยู่ในบริษัทนั้นด้วย. รัฐปาลกุลบุตร มีความคิดเห็น 21,0025,009,ว่าด้วยประการอย่างไร ๆ แล เราจึงจะรู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง 21,0025,010,แสดงแล้ว การที่บุคคลผู้ครองเรือนจะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ ให้ 21,0025,011,บริสุทธิ์ โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัด ไม่ใช่ทำได้ง่าย ถ้ากระไร เราพึงปลงผม 21,0025,012,และหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเถิด. ครั้งนั้น 21,0025,013,พวกพราหมณ์ คฤหบดีชาวถุลลโกฏฐิตนิคม อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้ 21,0025,014,เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา ชื่นชมยินดีพระภาษิต 21,0025,015,ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ลุกจากอาสนะถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำ 21,0025,016,ประทักษิณแล้วหลีกไป. เมื่อพราหมณ์และคฤหบดีชาวถุลลโกฏฐิตนิคมหลีกไป 21,0025,017,ไม่นาน รัฐปาลกุลบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคม 21,0025,018,พระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่ 21,0025,019,พระองค์ผู้เจริญ ด้วยประการไร ๆ แล ข้าพระพุทธเจ้าจึงจะรู้ทั่วถึงธรรมที่ 21,0025,020,พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้ว การที่บุคคลผู้ครองเรือนจะประพฤติ 21,0025,021,พรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ ให้บริสุทธิ์โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัด ไม่ใช่ทำได้ง่าย 21,0025,022,ข้าพระพุทธเจ้าปรารถนาจะปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือน