Book,Page,LineNumber,Text 21,0033,001,ครั้นล่วงราตรีนั้นไป บิดาของท่านพระรัฐปาละ ได้สั่งให้ตกแต่งของเคี้ยวของ 21,0033,002,ฉันอย่างประณีต แล้วใช้คนไปเรียนเวลาแก่ท่านพระรัฐปาละว่า ถึงเวลาแล้ว 21,0033,003,พ่อรัฐปาละ ภัตตาหารสำเร็จแล้ว. ครั้งนั้น เวลาเช้าท่านพระรัฐปาละ นุ่งแล้ว 21,0033,004,ถือบาตรและจีวรเข้าไปยังนิเวศน์แห่งบิดาท่าน แล้วนั่งบนอาสนะที่เขาแต่งตั้ง 21,0033,005,ไว้. บิดาขอท่านพระรัฐปาละสั่งให้เปิดกองเงินและทองนั้น แล้วได้กล่าวกะ 21,0033,006,ท่านพระรัฐปาละว่า พ่อรัฐปาละ ทรัพย์กองนี้เป็นส่วนของมารดา กองอื่น 21,0033,007,เป็นส่วนของบิดา ส่วนของปู่อีกกองหนึ่ง เป็นของพ่อผู้เดียว พ่ออาจจะใช้สอย 21,0033,008,สมบัติและทำบุญได้ พ่อจงลาสิกขาสึกเป็นคฤหัสถ์มาใช้สอยสมบัติและทำบุญ 21,0033,009,ไปเถิด. 21,0033,010,ท่านพระรัฐปาละตอบว่า ดูก่อนคฤหบดี ถ้าท่านพึงทำตามคำของ 21,0033,011,อาตมภาพได้ ท่านพึงให้เขาขนกองเงินกองทองนี้บรรทุกเกวียนให้เข็นไปจม 21,0033,012,เสียที่กลางกระแสแม่น้ำคงคา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความโศก ความร่ำไร 21,0033,013,ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส มีทรัพย์นั้นเป็นเหตุ จักเกิดขึ้นแก่ท่าน. 21,0033,014,ลำดับนั้น ภรรยาเก่าของท่านพระรัฐปาละ ต่างจับที่เท้าแล้วถามว่า 21,0033,015,พ่อผู้ลูกเจ้า นางฟ้าทั้งหลายผู้เป็นเหตุให้ท่านประพฤติพรหมจรรย์นั้นเป็น 21,0033,016,เช่นไร. 21,0033,017,ท่านพระรัฐปาละตอบว่า ดูก่อนน้องหญิง เราทั้งหลายประพฤติ 21,0033,018,พรหมจรรย์เพราะเหตุนางฟ้าทั้งหลายหามิได้. 21,0033,019,หญิงเหล่านั้นเสียใจว่า รัฐปาละผู้ลูกเจ้าเรียกเราทั้งหลายด้วยวาทะว่า 21,0033,020,น้องหญิง ดังนี้ สลบล้มอยู่ ณ ที่นั้น. ครั้งนั้น ท่านพระรัฐปาละได้กล่าวกะ 21,0033,021,บิดาว่า ดูก่อนคฤหบดี ถ้าจะพึงให้โภชนะก็จงให้เถิด อย่าให้อาตมภาพลำบาก 21,0033,022,เลย. 21,0033,023,บริโภคเถิด พ่อรัฐปาละ ภัตตาหารสำเร็จแล้ว.