Book,Page,LineNumber,Text 21,0044,001,ดูก่อนท่านรัฐปาละ พวกเราก็ไปรบเอาชนบทนั้นมาครอบครองเสีย 21,0044,002,น่ะซิ. 21,0044,003,ดูก่อนมหาบพิตร เนื้อความนี้แล อันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น 21,0044,004,ผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงหมายถึงตรัสธัมมุทเทส 21,0044,005,ข้อที่สี่ว่า โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา ที่อาตมภาพ 21,0044,006,รู้เห็นและได้ฟังแล้ว จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต. 21,0044,007,ดูก่อนท่านรัฐปาละ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว ข้อว่า โลกพร่อง 21,0044,008,อยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหานี้ อันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น 21,0044,009,ผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสดีแล้ว ท่านรัฐปาละ 21,0044,010,เป็นความจริง โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา. 21,0044,011,[๔๕๑] ท่านรัฐปาละได้กล่าวคำนี้แล้ว ครั้นแล้ว ภายหลังได้กล่าว 21,0044,012,คาถาประพันธ์นี้อื่นอีกว่า 21,0044,013,เราเห็นมนุษย์ทั้งหลายในโลก ที่เป็น 21,0044,014,ผู้มีทรัพย์ ได้ทรัพย์ แล้วย่อมไม่ให้เพราะ 21,0044,015,ความหลง โลภแล้วย่อมทำการสั่งสม 21,0044,016,ทรัพย์ และยังปรารถนากามทั้งหลายยิ่ง 21,0044,017,ขึ้นไป พระราชาทรงแผ่อำนาจชำนะ 21,0044,018,ตลอดแผ่นดิน ทรงครอบครองแผ่นดิน 21,0044,019,มีสาครเป็นที่สุด มิได้ทรงรู้จักอิ่มเพียงฝั่ง 21,0044,020,สมุทรข้างนี้ ยังทรงปรารถนาฝั่งสมุทร 21,0044,021,ข้างโน้นอีก พระราชาและมนุษย์เหล่าอื่น 21,0044,022,เป็นอันมาก ยังไม่สิ้นความทะเยอทะยาน 21,0044,023,ย่อมเข้าถึงความเป็นผู้พร่องอยู่ ละร่างกาย