Book,Page,LineNumber,Text 21,0049,001,ตระกูลใดชื่อตระกูลรัฐปาละ จักมี 21,0049,002,อยู่เพื่อเลี้ยงคนสี่วรรณะพร้อมทั้งพระราชา 21,0049,003,กุลบุตรผู้นี้จักเกิดในตระกูลนั้น. 21,0049,004,พึงทราบว่าชื่อนี้ ของท่านพระรัฐปาละนั้นเกิดขึ้น ครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 21,0049,005,พระนามว่า ปทุมุตตระด้วยประการฉะนี้. 21,0049,006,บทว่า เอตทโหสิ ความว่า ความคิดอะไร ๆ ว่า ยถา ยถา โข 21,0049,007,เป็นต้น ได้มีแล้ว. คำสังเขปในคำนั้นมีดังนี้. เราแลรู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มี 21,0049,008,พระภาคเจ้าทรงแสดงแล้วด้วยเหตุใด ๆ ก็เป็นอันเราพิจารณาใคร่ครวญแล้ว 21,0049,009,ด้วยเหตุนั้น ๆ อย่างนี้ว่า พรหมจรรย์ คือ สิกขา ๓ นั้นใด เราพึงประพฤติให้ 21,0049,010,บริบูรณ์โดยส่วนเดียว เพราะทำไม่ให้ขาดแม้วันหนึ่ง ให้ถึงจริมกจิต และพึง 21,0049,011,ประพฤติให้บริสุทธิ์ โดยส่วนเดียว ดังสังข์ขัด เช่น กับสังข์ที่ขัดสีแล้ว ได้แก่ 21,0049,012,เทียบกับสังข์ที่ชำระแล้ว เพราะทำให้ไม่มีมลทิน โดยมลทินคือกิเลสแม้ในวัน 21,0049,013,หนึ่ง แล้วให้ถึงจริมกจิต. บทว่า อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา 21,0049,014,ความว่า พรหมจรรย์นั้น อันผู้อยู่ท่ามกลางเรือนพระพฤติให้บริบูรณ์โดยส่วน 21,0049,015,เดียว ฯลฯ กระทำไม่ได้ง่ายเลย ถ้ากระไร เราพึงปลงผมและหนวดห่มผ้าอัน 21,0049,016,เหมาะแก่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ที่ชื่อว่า กาสายะ เพราะย้อมด้วยน้ำฝาด 21,0049,017,ออกจากเรือนบวชไม่มีเรือน. บทว่า อจิรปกฺกนฺเตสุ ถุลฺลโกฏฺ€ิตเกสุ 21,0049,018,พฺราหฺมณคหปติเกสุ เยน ภควา เตนูปสงฺกมิ ความว่า ในเมื่อพรหมณ์ 21,0049,019,และคหบดี เหล่านั้นยังไม่ลุกไป รัฐปาลกุลบุตร ก็ไม่ทูลขอบรรพชาต่อพระ 21,0049,020,ผู้มีพระภาคเจ้า. เพราะเหตุไร. เพราะญาติสาโลหิตมิตรทั้งหลาย ของเขาในที่ 21,0049,021,นั้นเป็นจำนวนมาก ก็หวังกันอยู่ คนเหล่านั้นกล่าวว่า ท่านเป็นลูกคนเดียว 21,0049,022,ของมารดาบิดา ท่านไม่ควรบวช แล้วพึงจับเขาที่แขนคร่ามา แต่นั้น บรรพชา