Book,Page,LineNumber,Text 22,0022,001,[๒๖] เธอ เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลสเครื่อง 22,0022,002,ยียวน ปราศจากอุปกิเลส เป็นจิตอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่ 22,0022,003,หวั่นไหวอย่างนี้แล้ว ย่อมน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ รู้ชัดตามเป็นจริงว่า 22,0022,004,นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้ปฏิปทาให้ถึงความดับทุกข์ รู้ 22,0022,005,ชัดตามเป็นจริงว่าเหล่านี้อาสวะ นี้เหตุให้เกิดอาสวะ นี้ความดับอาสวะ 22,0022,006,นี้ปฏิปทาให้ถึงความดับอาสวะ เมื่อเธอรู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ จิตก็หลุดพ้น 22,0022,007,แม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว 22,0022,008,ย่อม มีญาณรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว 22,0022,009,กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุ 22,0022,010,ทั้งหลาย อย่างนี้แล ความพยายามจึงมีผล ความเพียรจึงมีผล. 22,0022,011,[๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตมีวาทะอย่างนี้ วาทะ ๑๐ ประการ 22,0022,012,อันชอบด้วยเหตุของตถาคตผู้มีวาทะอย่างนี้ ย่อมถึงฐานะควรสรรเสริญ. 22,0022,013,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์ เพราะเหตุแห่ง 22,0022,014,กรรมที่ตนทำไว้แต่ก่อน ตถาคตต้องเป็นผู้ทำกรรมดีแต่ก่อนแน่ ผลในบัดนี้ 22,0022,015,จึงเสวยสุขเวทนาอันหาอาสวะมิได้เห็นปานนี้ ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์ 22,0022,016,เพราะเหตุที่พระผู้เป็นใหญ่เนรมิตให้ ตถาคตต้องเป็นผู้ที่พระผู้เป็นใหญ่ชั้นดี 22,0022,017,เนรมิตแน่ ผลในบัดนี้ จึงเสวยสุขเวทนาอันหาอาสวะมิได้เห็นปานนี้ ถ้าหมู่ 22,0022,018,สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์เพราะเหตุเคราะห์กรรม ตถาคตต้องเป็นผู้มีเคราะห์ 22,0022,019,กรรมดีแน่ ผลในบัดนี้ จึงเสวยสุขเวทนาอันหาอาสวะมิได้เห็นปานนี้ ถ้าหมู่ 22,0022,020,สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์เพราะเหตุอภิชาติ ตถาคตต้องเป็นผู้มีอภิชาติดีแน่ 22,0022,021,ผลในบัดนี้ จึงเสวยสุขเวทนาอันหาอาสวะมิได้เห็นปานนี้ ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวย 22,0022,022,สุขและทุกข์ เพราะเหตุแห่งความพยายามในปัจจุบัน ตถาคตต้องเป็นผู้มีความ