Book,Page,LineNumber,Text 22,0045,001,พวกหนึ่งกล่าวยืนยันอย่างนี้ว่า อัตตาและโลก มีทุกข์ก็มิใช่ สุขก็ 22,0045,002,มิใช่ นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเปล่า. 22,0045,003,[๓๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น สมณ- 22,0045,004,พราหมณ์พวกใด. มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า อัตตาและโลกเที่ยง นี้ 22,0045,005,เท่านั้นจริง อย่างอื่นเปล่า ข้อที่ญาณเฉพาะตัวอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของสมณ- 22,0045,006,พราหมณ์พวกนั้น จักมีเองได้ นอกจากความเชื่อ ความชอบใจ การฟังตาม 22,0045,007,เขาว่า ความตรึกตามอาการ ความปักใจดิ่งด้วยทิฏฐิ นั้นไม่ใช่ฐานะที่มีได้. 22,0045,008,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อไม่มีญาณเฉพาะตัวอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง 22,0045,009,ท่านสมณพราหมณ์พวกนั้น ย่อมชำระได้เพียงส่วนของความรู้ในญาณนั้นเท่า 22,0045,010,นั้น แม้ส่วนของความรู้นั้น บัณฑิตก็เรียกว่า อุปาทานของท่านสมณพราหมณ์ 22,0045,011,พวกนั้น เรื่องอุปาทานดังนี้นั้น อันปัจจัยปรุงแต่ง เป็นของหยาบ และความ 22,0045,012,ดับของสิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งมีอยู่ ตถาคตทราบว่าสิ่งนี้ยังมีอยู่ จึงเห็นอุบาย 22,0045,013,เป็นเครื่องสลัดออกจากสิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งนั้น เป็นไปล่วงสิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่ง 22,0045,014,นั้นเสีย. 22,0045,015,[๓๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านั้น สมณ- 22,0045,016,พราหมณ์พวกใด มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า อัตตาและโลกไม่เที่ยง นี้ 22,0045,017,เท่านั้นจริง อย่างอื่นเปล่า... 22,0045,018,ว่า อัตตาและโลกทั้งเที่ยงและไม่เที่ยง นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่น 22,0045,019,เปล่า... 22,0045,020,ว่า อัตตาและโลกเที่ยงก็มิใช่ ไม่เที่ยงก็มิใช่ นี้เท่านั้นจริง อย่าง 22,0045,021,อื่นเปล่า... 22,0045,022,ว่า อัตตาและโลกมีที่สุด นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเปล่า...