Book,Page,LineNumber,Text 23,0034,001,บทว่า โส ปหียติ ความว่า ละมานะว่า มีในรูป ละฉันทะว่ามีในรูป 23,0034,002,ละอนุสัยว่า มีในรูป. ความรู้ชัดในเวทนาเป็นต้น พึงทราบโดยนัยดังกล่าว 23,0034,003,แล้วอย่างนั้นนั่นและ พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า อิเม โข เต อานนฺท 23,0034,004,ธมฺมา ดังนี้ ทรงหมายถึงธรรมคือสมถวิปัสสนา มรรคและผลที่ตรัสแล้วใน 23,0034,005,หนหลัง. บทว่า กุสลายตฺติกา แปลว่า มาแต่กุศล. ความจริง กุศลธรรม 23,0034,006,ทั้งหลาย เป็นทั้งกุศล เป็นทั้งธรรมที่เนื่องมาแต่กุศล อากิญจัญญายตนฌาน 23,0034,007,เป็นกุศล เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน เป็นทั้งกุศล เป็นทั้งธรรมที่เนื่องมา 23,0034,008,แต่กุศล เนวสัญญานาสัญญานฌานเป็นกุศล โสดาปัตติมรรคเป็นทั้ง 23,0034,009,กุศล เป็นทั้งธรรมที่เนื่องมาแต่กุศล ฯลฯ อนาคามิมรรค เป็นกุศล อรหัตต 23,0034,010,มรรค เป็นทั้งกุศล เป็นทั้งธรรมที่เนื่องมาแต่กุศล ปฐมฌานก็จัดเป็นกุศล 23,0034,011,เหมือนกัน ธรรมที่สัมปยุตด้วยปฐมฌานนั้น เป็นทั้งกุศล เป็นทั้งธรรมที่ 23,0034,012,เนื่องมาแต่กุศล ฯลฯ อรหัตตมรรค เป็นกุศล ธรรมที่สัมปยุตด้วยอรหัตต 23,0034,013,มรรคนั้น เป็นทั้งกุศล เป็นทั้งธรรมที่เนื่องมาแต่กุศล บทว่า อริยา แปลว่า 23,0034,014,ไม่มีกิเลส คือบริสุทธิ์. บทว่า โลกุตฺตรา แปลว่า ยอดเยี่ยม คือบริสุทธิ์ 23,0034,015,ในโลก. บทว่า อนวกฺกนฺตา ปาปิมตา แปลว่า อันมารผู้มีบาปหยั่งลงไม่ 23,0034,016,ได้. ก็มารย่อมไม่เห็นจิตของภิกษุ ผู้นั่งเข้าสมาบัติ ๘ มีวิปัสสนาเป็นบาท 23,0034,017,คือไม่อาจเพื่อจะรู้ว่าจิตของภิกษุนั้นอาศัยอารมณ์ชื่อนี้เป็นไป เพราะฉะนั้น 23,0034,018,จึงตรัสว่า อนุวกฺกนฺตา. เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสบทนี้ว่า 23,0034,019,ตํ กึ มญฺสิ. ความจริงในคณะก็มีอานิสงส์อย่างหนึ่ง เพื่อจะทรงแสดง 23,0034,020,อานิสงส์นั้น จึงตรัสคำนี้. บทว่า อนุพนฺธิตุํ แปลว่า ติดตามไป คือแวด 23,0034,021,ล้อม. ในบทว่า น โข อานนฺท นี้ มีวินิจฉัยว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 23,0034,022,พระอริยสาวกผู้ได้สดับ แล้ว แต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมละอกุศล 23,0034,023,เจริญกุศล ละธรรมที่มีโทษ เจริญธรรมที่ไม่มีโทษ บริหารตนให้บริสุทธิ์