Book,Page,LineNumber,Text 24,0036,001,เหตุเพียงเท่านี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงข้ามโอฆะ ด้วยเหตุนี้ได้อย่างไร 24,0036,002,ดังนี้ เราจักรู้อรรถอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบนั่นแหละ คำใดน้อยหรือ 24,0036,003,มากที่เรายังไม่รู้ เราจักรู้คำนั้นอันพระผู้มีพระภาคตรัสบอกแล้วทีเดียว เพราะ 24,0036,004,ว่าคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างไรนั้นเรายังไม่ทราบ ดังนี้. 24,0036,005,ลำดับนั้น พระบรมศาสดา จึงตรัสปัญหาทำให้เป็นปัญหาซ่อนเร้น 24,0036,006,(คือเข้าใจยาก) ด้วยพระดำริว่า เทวบุตรนี้ยังไม่ละมานะนี้ ก็ไม่ควรเพื่อจะ 24,0036,007,รับธรรมเทศนา เปรียบเหมือนผ้าที่ยังเศร้าหมอง (ยังไม่ซักให้สะอาด) ไม่ 24,0036,008,ควรจะย้อมสี เราจักข่มมานะของเทวบุตรนี้ก่อน แล้วจักประกาศเนื้อความนั้นอีก 24,0036,009,แก่เธอโดยไม่มีจิตต่ำเช่นนี้ถามอยู่ ดังนี้. 24,0036,010,แม้เทวบุตรนั้นก็ได้เป็นผู้มีมานะอันพระองค์นำออกแล้ว และเทศนานั้น 24,0036,011,พึงทราบโดยคำถามปัญหาให้ยิ่งขึ้นไป เพราะความที่เธอเป็นผู้มีมานะอันพระองค์ 24,0036,012,นำออกแล้วนั่นแหละ ทั้งเนื้อความนี้ก็ได้เป็นประโยชน์แก่บุคคลผู้ถามปัญหา 24,0036,013,เทวบุตรทูลถามว่า ข้าแด่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ก็พระองค์ไม่พักไม่เพียร 24,0036,014,ข้ามโอฆะได้อย่างไรเล่า ข้าพระองค์จะทราบได้โดยประการใด ขอพระองค์จง 24,0036,015,ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์โดยประการนั้นเถิด ดังนี้. 24,0036,016,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสตอบปัญหาแก่เทวบุตรนั้น 24,0036,017,จึงตรัสว่า ยทา สฺวาหํ เป็นต้น. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยทา สฺวาหํ 24,0036,018,แก้เป็น ยสฺมึ กาเล อหํ (แปลว่าในกาลใดเรา). สุอักษร เป็นเพียงนิบาต. 24,0036,019,ก็สุอักษรในที่นี้ฉันใด ในบททั้งปวงก็ฉันนั้น. บทว่า สํสีทามิ ความว่า เมื่อ 24,0036,020,เราไม่ข้ามก็จมอยู่ในที่นั้นนั่นแหละ. บทว่า นิพฺพุยฺหามิ ความว่า เมื่อเราไม่ 24,0036,021,อาจเพื่อดำรงอยู่ ก็ย่อมเป็นไปล่วงปัญหาแม้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว อย่างนี้ 24,0036,022,ว่า เราไม่พักไม่เพียรข้ามโอฆะได้แล้ว ดังนี้ แม้จะเป็นปัญหาอันเทวดาทราบแล้ว 24,0036,023,แต่ก็ไม่แจ่มแจ้ง เพราะเห็นโทษคือความไม่เข้าใจในเพราะการหยุดอยู่และใน