Book,Page,LineNumber,Text 26,0020,001,[๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ 26,0020,002,ปฏิจจสมุปบาทเป็นไฉน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย 26,0020,003,จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็น 26,0020,004,ปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะ 26,0020,005,สฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา 26,0020,006,เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน 26,0020,007,เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะ 26,0020,008,ชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ โลกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส 26,0020,009,ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้. 26,0020,010,[๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ชราและมรณะเป็นไฉน. ความแก่ 26,0020,011,ภาวะของความแก่ ฟันหลุด ผมหงอก หนังเป็นเกลียว ความเสื่อมแห่ง 26,0020,012,อายุ ความแก่หง่อมแห่งอินทรีย์ ในหมู่สัตว์นั้น ๆ ของเหล่าสัตว์นั้น ๆ 26,0020,013,นี้เรียกกว่าชรา. ก็มรณะเป็นไฉน. การเคลื่อนที่ การย้ายที่ ความทำลาย 26,0020,014,ความอันตรธาน ความม้วยมรณ์ การถึงแก่กรรม ความแตกแห่งขันธ์ 26,0020,015,ความทอดทิ้งซากศพ ความขาดแห่งชีวิตินทรีย์ จากหมู่สัตว์นั้น ๆ ของ 26,0020,016,เหล่าสัตว์นั้น ๆ นี้เรียกว่ามรณะ. ชราและมรณะ ดังพรรณนามาฉะนี้ 26,0020,017,เรียกว่า ชราและมรณะ. 26,0020,018,[๗] ก็ชาติเป็นไฉน. ความเกิด ความก่อเกิด ความหยั่งลง 26,0020,019,ความบังเกิด ความเกิดจำเพาะ ความปรากฏแห่งขันธ์ ความได้อายตนะ 26,0020,020,ครบในหมู่สัตว์นั้น ๆ ของเหล่าสัตว์นั้น ๆ นี้เรียกว่าชาติ.