Book,Page,LineNumber,Text 26,0037,001,หามิได้. เพราะเหตุไร. เพราะท่านแสดงปฏิปทาโดยผล. จริงอยู่ ในที่นี้ 26,0037,002,ท่านแสดงปฏิปทาโดยผล. ความในคำว่า เพราะอวิชชานั่นแลดับไปโดย 26,0037,003,สำรอกไม่เหลือ สังขารจึงดับนี้ มีอธิบายดังนี้ นิพพานกล่าวคือการ 26,0037,004,ดับสนิทนี้ เป็นผลของปฏิปทาใด ภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทานี้เราเรียกว่า 26,0037,005,สัมมาปฏิปทา. ก็ในอรรถนี้ วิราคะ ในคำว่า อเสสวิราคนิโรธา นี้ 26,0037,006,เป็นไวพจน์ของการดับสนิทนั่นเอง. ก็ในคำว่า อเสสวิราคนิโรธา นี้ 26,0037,007,เป็นไวพจน์ของการดับสนิทนั่นเอง. ก็ในคำว่า อเสสวิราคา อเสส- 26,0037,008,นิโรธา นี้ มีอธิบายดังต่อไปนี้ อีกอย่างหนึ่ง เพื่อแสดงมรรคกล่าวคือ 26,0037,009,วิราคะ อันเป็นเหตุดับสนิทโดยไม่เหลือ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสบท 26,0037,010,ภาชนะนี้ว่า ก็เมื่อเป็นเช่นนี้ปฏิปทาอันเป็นไปกับด้วยอานุภาพ เป็นอัน 26,0037,011,พระองค์ทรงจำแนกแล้ว. ดังนั้น พระองค์จึงตรัสเฉพาะวัฏฏะและวิวัฏฏะ 26,0037,012,แม้นี้เท่านั้นแล. 26,0037,013,จบอรรถกถาปฏิปทาสูตรที่ ๓ 26,0037,014,

๔. วิปัสสีสูตร

26,0037,015,

ว่าด้วยพระวิปัสสีโพธิสัตว์ทรงปริวิตก

26,0037,016,[๒๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม 26,0037,017,ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ 26,0037,018,ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า 26,0037,019,ทรงพระนามว่าวิปัสสี ก่อนแต่ตรัสรู้ เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ยังมิได้ 26,0037,020,ตรัสรู้ ได้ปริวิตกว่า โลกนี้ถึงความยากแล้วหนอ ย่อมเกิด แก่ ตาย 26,0037,021,จุติ และอุปบัติ และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่รู้ธรรมอันออกจากทุกข์ คือชรา 26,0037,022,และมรณะนี้ เมื่อไรเล่าความออกจากทุกข์ คือชราและมรณะนี้ จักปรากฏ.