Book,Page,LineNumber,Text 27,0037,001,บุคคลล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน เป็นผู้ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ 27,0037,002,ทั้งหลาย ดังนี้ ดูก่อนคฤหบดี เนื้อความแห่งพระพุทธพจน์ ที่พระผู้มี- 27,0037,003,พระภาคเจ้าตรัสโดยย่อนี้แล พึงเห็นได้โดยพิสดารอย่างนี้ ด้วยประการ 27,0037,004,ฉะนี้แล. 27,0037,005,จบ ทุติยหลิททิการนิสูตรที่ ๔ 27,0037,006,

อรรถกถาทุติยหลิททิการนิสูตรที่ ๔

27,0037,007,ในทุติยหลิททิกานิสูตรที่ ๔ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ 27,0037,008,คำว่า สกฺกปญฺเห นี้ท่านกล่าวไว้แล้วทั้งในจูฬสักกปัญหา 27,0037,009,และทั้งในมหาสักกปัญหา. บทว่า ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตา ได้แก่ น้อมไปใน 27,0037,010,พระนิพพานอันเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาด้วยผลวิมุตติ ซึ่งมีพระนิพพาน 27,0037,011,นั้นเป็นอารมณ์. บทว่า อจฺจนฺตนิฏฺ€า ได้แก่ เสร็จ คือสำเร็จด้วยดี 27,0037,012,เหลือเกิน แม้ในบทที่เหลือก็มีนัยเดียวกันนี้. 27,0037,013,จบ อรรถกถาหลิททิกานิสูตรที่ ๔ 27,0037,014,

๕. สมาธิสูตร

27,0037,015,

ว่าด้วยสมาธิเป็นเหตุเกิดปัญหา

27,0037,016,[๒๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :- 27,0037,017,สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม 27,0037,018,ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก 27,0037,019,ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัส 27,0037,020,แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย 27,0037,021,จงเจริญสมาธิ ภิกษุมีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริง ก็ภิกษุย่อม