Book,Page,LineNumber,Text
29,0026,001,
รโหคตวรรคที่ ๒
29,0026,002,๑. รโหคตสูตร
29,0026,003,ว่าด้วยเวทนา ๓ หมายถึงสังขารเป็นของไม่เที่ยง
29,0026,004,[๓๙๑] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
29,0026,005,ถึงที่ประทับถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
29,0026,006,ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้า
29,0026,007,พระองค์ขอประทานพระวโรกาส ความปริวิตกแห่งใจเกิดขึ้นแต่ข้าพระองค์
29,0026,008,ผู้หลีกเร้นอยู่ในที่ลับอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา ๓ อย่าง
29,0026,009,คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
29,0026,010,เวทนา ๓ อย่างนี้ ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระดำรัสนี้ว่า ความเสวย
29,0026,011,อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นทุกข์ ดังนี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระ-
29,0026,012,ดำรัสนี้ว่า ความเสวยอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นทุกข์ ดังนี้ ทรงหมาย
29,0026,013,เอาอะไรหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ถูกแล้ว ถูกแล้ว ภิกษุ ดูก่อนภิกษุ
29,0026,014,เรากล่าวเวทนา ๓ นี้ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา เรา
29,0026,015,กล่าวเวทนา ๓ นี้ ดูก่อนภิกษุ เรากล่าวคำนี้ว่า ความเสวยอารมณ์อย่างใด
29,0026,016,อย่างหนึ่งเป็นทุกข์ ดังนี้ ดูก่อนภิกษุ ก็คำนี้ว่า ความเสวยอารมณ์อย่างใด
29,0026,017,อย่างหนึ่งเป็นทุกข์ ดังนี้ เรากล่าวหมายเอาความที่สังขารทั้งหลายนั่นเอง
29,0026,018,ไม่เที่ยง ดูก่อนภิกษุ ก็คำนี้ว่า ความเสวยอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นทุกข์
29,0026,019,ดังนี้ เรากล่าวหมายเอาความที่สังขารทั้งหลายนั้นแหละมีความสิ้นไป เสื่อม
29,0026,020,ไป คลายไป ดับไป แปรปรวนไปเป็นธรรมดา.