Book,Page,LineNumber,Text
30,0024,001,<B>เอตทโวจ</B>   ความว่า   เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้ฉลาดในอนุสนธิ    เมื่อทูลถามจึง
30,0024,002,ได้กราบทูลอย่างนี้ว่า   พระศาสดาเมื่อตรัสว่า  ธาตุ   ก็ตรัสนิพพานแก่เราแล้ว 
30,0024,003,ส่วนทางแห่งนิพพานนั้นพระองค์ยังไม่ตรัส   เราจักทูลให้พระองค์ตรัสทางแห่ง
30,0024,004,นิพพานนั้น    จึงทูลถามดังนี้ .
30,0024,005,<I>จบอรรถกถาทุติยภิกขุสูตรที่  ๗</I>
30,0024,006,<h1>๘.  วิภังคสูตร</h1>
30,0024,007,<h2>อริยมรรค  ๘</h2>
30,0024,008,[๓๓]  สาวัตถีนิทาน.  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า  ดู
30,0024,009,ก่อนภิกษุทั้งหลาย   เราจักแสดง   จักจำแนกอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์  ๘
30,0024,010,แก่เธอทั้งหลาย    เธอทั้งหลายจงพึงอริยมรรคนั้น     จงใส่ใจให้ดี    เราจักกล่าว
30,0024,011,ภิกษุพวกนั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว   พระผู้มีพระภาคเจ้า
30,0024,012,ตรัสว่า    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย     ก็อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นไฉน
30,0024,013,คือ  สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ.
30,0024,014,[๓๔]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาทิฏฐิเป็นไฉน  ความรู้ในทุกข์ ใน
30,0024,015,ทุกขสมุทัย  ในทุกขนิโรธ  ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา  นี้เรียกว่า  สัมมาทิฏฐิ.
30,0024,016,[๓๕]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ก็สัมมาสังกัปปะเป็นไฉน   ความดำริใน
30,0024,017,การออกจากกาม   ความดำริในอันไม่พยาบาท   ความดำริในอันไม่เบียดเบียน
30,0024,018,นี้เรียกว่า   สัมมาสังกัปปะ.
30,0024,019,[๓๖]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ก็สัมมาวาจาเป็นไหน   เจตนาเครื่องงา.
30,0024,020,เว้น   จากพูดเท็จ พูดส่อเสียด  พูดคำหยาบ  พูดเพ้อเจ้อ   นี้เรียกว่า  สัมมาวาจา.