Book,Page,LineNumber,Text 30,0025,001,[๓๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมากัมมันตะเป็นไฉน เจตนาเครื่อง 30,0025,002,งดเว้นจากปาณาติบาต อทินนาทาน จากอพรหมจรรย์ นี้เรียกว่า สัมมา- 30,0025,003,กัมมันตะ. 30,0025,004,[๓๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาอาชีวะเป็นไฉน อริยสาวกใน 30,0025,005,ธรรมวินัยนี้ ละการเลี้ยงชีพที่ผิดเสีย สำเร็จชีวิตอยู่ด้วยการเลี้ยงชีพที่ชอบ นี้ 30,0025,006,เรียกว่าสัมมาอาชีวะ. 30,0025,007,[๓๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมมาวายามะเป็นไฉน ภิกษุในธรรม 30,0025,008,วินัยนี้ยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ 30,0025,009,เพื่อมิให้อกุศลธรรมอันลามกที่ยังไม่เกิดบังเกิดขึ้น เพื่อละอกุศลธรรมอันลามก 30,0025,010,ที่บังเกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดบังเกิดขึ้น พยายาม ปรารภความ 30,0025,011,เพียร ประคองจิตไว้ เพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน เพิ่มพูน ไพบูลย์ เจริญ 30,0025,012,บริบูรณ์ แห่งกุศลธรรมที่บังเกิดขึ้นแล้ว นี้เรียกว่า สัมมาวายามะ. 30,0025,013,[๔๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสติเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัย 30,0025,014,นี้ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนือง ๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ 30,0025,015,พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา 30,0025,016,เนือง ๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัส 30,0025,017,ในโลกเสีย ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตเนือง ๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ 30,0025,018,มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรม 30,0025,019,เนือง ๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัส 30,0025,020,ในโลกเสีย นี้เรียกว่า สัมมาสติ. 30,0025,021,[๔๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสมาธิเป็นไฉน ภิกษุในธรรม 30,0025,022,วินัยนี้สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติ 30,0025,023,และสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน