Book,Page,LineNumber,Text 30,0028,001,ทุกขสัจจะ ก็ปรากฏได้ เพราะความเกิดขึ้น ย่อมถึงแม้ซึ่งอันตนพึงกล่าวว่า 30,0028,002,ทุกข์หนอ ในการกระทบด้วยตอและหนามเป็นต้น. แม้สมุทัยก็ปรากฏได้ 30,0028,003,เพราะความเกิดขึ้น ด้วยสามารถมีความเป็นผู้ใคร่เพื่อจะเคี้ยวกินและจะบริโภค 30,0028,004,เป็นต้น. แต่ว่า โดยการแทงตลอดถึงลักษณะ ทุกข์และสมุทัยสัจแม้ทั้งสอง 30,0028,005,ก็เป็นธรรมลุ่มลึก. สัจจะเหล่านั้น ชื่อว่า เป็นธรรมอันลุ่มลึก. เพราะเห็น 30,0028,006,ได้ยาก ด้วยประการดังนี้. ความพยายามเพื่อต้องการเห็นสัจจะทั้งสองนอกนี้ 30,0028,007,(นิโรธ มรรค) ย่อมเป็นเหมือนการเหยียดมือไปเพื่อจับภวัคคพรหม 30,0028,008,เหมือนการเหยียดเท้าไปเพื่อถูกต้องอเวจี และเหมือนการยังปลายแห่งขนหาง- 30,0028,009,สัตว์ซึ่งแยกแล้วโดย ๗ ส่วน ให้ตกสู่ปลาย. สัจจะเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นธรรม 30,0028,010,ลุ่มลึก เพราะเห็นได้ยากด้วยประการดังนี้. บทเป็นอาทิว่า ทุกฺเข าณํ นี้ 30,0028,011,พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วด้วยสามารถการเรียนเป็นต้น ในสัจจะ ๔ ชื่อว่า 30,0028,012,เป็นธรรมลุ่มลึก เพราะเห็นได้ยาก และชื่อว่า เป็นธรรมเห็นได้ยาก 30,0028,013,เพราะเป็นธรรมลุ่มลึก ด้วยประการดังนี้. ส่วนญาณนั้น ย่อมมีอย่างนี้แล 30,0028,014,ในลักษณะแห่งปฏิเวธ. 30,0028,015,พึงทราบในบท เนกขัมมสังกัปปะเป็นอาทิ ความดำริในการออก 30,0028,016,จากกามว่า เกิดขึ้นแล้วโดยภาวะที่ออกไปจากกาม เพราะอรรถว่าเป็นข้าศึก 30,0028,017,ต่อกามบ้าง เกิดขึ้นแล้วแก่ผู้พิจารณากามอยู่ดังนี้บ้างว่า เมื่อทำการกำจัดกาม 30,0028,018,ให้กามสงบก็เกิดขึ้นดังนี้บ้าง ว่าเมื่อสงัดจากกามก็เกิดขึ้นดังนี้บ้าง. แม้ใน 30,0028,019,สองบทที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ส่วนธรรมมีเนกขัมมสังกัปปะเป็นต้น 30,0028,020,เหล่านั้นแม้ทั้งหมด ชื่อว่าต่างกันในส่วนเบื้องต้น เพราะความหมายในการ 30,0028,021,งดเว้นจากกาม จากพยาบาท และจากวิหิงสามีสภาวะต่างกัน. 30,0028,022,ส่วนในขณะแห่งมรรค ความดำริในกุศลอย่างเดียวเท่านั้น ย่อม 30,0028,023,เกิดขึ้น ยังองค์แห่งมรรคให้บริบูรณ์อยู่ ด้วยสามารถให้สำเร็จความไม่เกิดขึ้น