Book,Page,LineNumber,Text
30,0039,001,ภายหลัง จักเอาอย่างว่า แม้พระศาสดาทรงละคณะไปประทับอยู่ แต่พระองค์
30,0039,002,เดียว จะกล่าวอะไรถึงพวกเราเล่า ข้อนั้น จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
30,0039,003,แก่ปัจฉิมชนนั้น ตลอดกาลนาน ดังนี้ จึงตรัสอย่างนี้ ด้วยเหตุนี้.
30,0039,004,แม้ภิกษุสงฆ์ทูลรับพระดำรัสของพระศาสดาแล้ว จึงได้ถวายภิกษุรูปหนึ่ง
30,0039,005,ภิกษุรูปนั้น ทำกิจทั้งปวงมีการกวาดบริเวณพระคันธกุฎี ถวายน้ำสรงพระพักตร์
30,0039,006,และไม้ชำระพระทนต์เป็นต้น แต่เช้าตรู่เสร็จแล้ว ก็หลีกไปในขณะนั้น.
30,0039,007,บทว่า เยน สฺวาหํ ตัดบทเป็น เยน สุ อหํ. บทว่า ปมาภิ-
30,0039,008,สมฺพุทฺโธ ความว่า เราได้ตรัสรู้ ครั้งแรก อยู่ด้วยวิหารธรรม ในภาย
30,0039,009,ใน ๔๙ วัน. บทว่า วิหรามิ นี้ เป็นคำปัจจุบันลงในอรรถของอดีต. บทว่า
30,0039,010,ตสฺส ปเทเสน ความว่า โดยส่วนแห่งวิหารธรรมแรกตรัสรู้นั้น. ส่วนแห่งขันธ์
30,0039,011,ส่วนแห่งอายตนะ ธาตุ สัจจะ อินทรีย์ ปัจจยาการ สติปัฏฐาน ฌานและ
30,0039,012,นามรูป ส่วนแห่งธรรม มีอย่างต่าง ๆ กัน ชื่อว่า ส่วนในวิหารธรรมนั้น.
30,0039,013,พระองค์ทรงหมายถึงส่วนแห่งธรรมนั้นแม้ทั้งปวง จึงตรัสว่า ตสฺส ปเทเสน
30,0039,014,วิหาสิ ดังนี้.
30,0039,015,ก็ในปฐมโพธิกาล พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงใคร่ครวญพิจารณาขันธ์
30,0039,016,ห้า หมดทุกส่วนแล้วในภายใน ๔๙ วัน เหมือนพระราชาทรงปกครองราช-
30,0039,017,สมบัติแล้ว รับสั่งให้เปิดห้องนั้น ๆ เพื่อทอดพระเนตรสมบัติอันเป็นแก่นสาร
30,0039,018,ของพระองค์ พึงพิจารณาอยู่ ซึ่งรัตนะทั้งหลายมีทอง เงิน แก้วมุกดาและ
30,0039,019,มณีเป็นต้นฉะนั้น. ส่วนในกึ่งเดือนนี้ ทรงพิจารณาอยู่ซึ่งเวทนาขันธ์เท่านั้น
30,0039,020,อันเป็นส่วนแห่งขันธ์เหล่านั้น. เมื่อพระองค์ทรงแลดูอยู่ว่า สัตว์ทั้งหลายเหล่า
30,0039,021,นี้ ย่อมเสวยซึ่งสุขชื่อเห็นปานนี้ เสวยซึ่งทุกข์ เห็นปานนี้ ดังนี้ สุขเวทนา
30,0039,022,เป็นไปแล้ว จนถึงภวัคคพรหม ทุกขเวทนาเป็นไปแล้ว จนถึงอเวจี ทั้ง
30,0039,023,หมดปรากฏแล้ว โดยอาการทั้งปวง. ต่อมา ทรงอยู่กำหนดเวทนานั้น โดย