Book,Page,LineNumber,Text
32,0012,001,"อารมณ์ที่รู้, อรรถว่า ทรงความรู้ตามกระแสโสตทวาร ในคำเป็นต้นว่า "
32,0012,002,สุตธโร สุตสนฺนิจฺจโย ผู้ทรงความรู้สั่งสมความรู้. แต่ในที่นี้ สุต ศัพท์ มี
32,0012,003,อรรถว่า อุปธาริตํ ทรงไว้ทางโสตทวาร หรือว่า อุปธารณํ ความทรงจำ.
32,0012,004,จริงอยู่ เมื่อ เม ศัพท์ มีอรรถว่า มยา ความว่า ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้ว
32,0012,005,อย่างนี้ คือ เข้าไปทรงจำ ตามกระแสแห่งโสตทวารก็ถูก. เมื่อมีอรรถ
32,0012,006,ว่า มม ความว่า การฟังของข้าพเจ้าอย่างนี้ คือ การทรงจำ ตาม
32,0012,007,กระแสแห่งโสตทวาร ก็ถูก.
32,0012,008,บรรดาบททั้ง ๓ นั้น ดังว่ามานี้ บทว่า เอวํ เป็นบทแสดงกิจ
32,0012,009,คือหน้าที่ของวิญญาณ มีโสตวิญญาณเป็นต้น บทว่า เม เป็นบทแสดง
32,0012,010,บุคคลที่พรั่งพร้อมด้วยวิญญาณดังกล่าวแล้ว บทว่า สุตํ เป็นบท
32,0012,011,แสดงถึงการถือเอา ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่วิปริต เพราะปฏิเสธ
32,0012,012,ภาวะที่ไม่ได้ยิน อนึ่ง บทว่า เอวํ เป็นบทประกาศว่าวิญญาณ-
32,0012,013,วิถี ที่เป็นไปแล้วตามกระแสแห่งโสตทวารนั้น เป็นไปในอารมณ์
32,0012,014,โดยประการต่าง ๆ. บทว่า เม เป็นบทประกาศตน. บทว่า สุตํ เป็น
32,0012,015,บทประกาศธรรม. ก็ในที่นี้ มีความสังเขปดังนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่กระทำ
32,0012,016,กิจอย่างอื่น แต่กิจนี้ข้าพเจ้าทำแล้ว ธรรมนี้ ข้าพเจ้า ฟังมาแล้ว โดย
32,0012,017,วิญญาณวิถี ที่เป็นไปในอารมณ์ โดยประการต่าง ๆ.
32,0012,018,อนึ่ง บทว่า เอวํ เป็นบทประกาศอรรถที่จะพึงชี้แจง. บทว่า
32,0012,019,เม เป็นบทประกาศบุคคล. บทว่า สุตํ เป็นบทประกาศกิจของบุคคล.
32,0012,020,ท่านอธิบายไว้ว่า ข้าพเจ้าชี้แจงพระสูตรใด พระสูตรนั้น ข้าพเจ้า
32,0012,021,ฟังมาแล้วอย่างนี้.