Book,Page,LineNumber,Text
32,0021,001,ท่านได้ทำนิเทศด้วยสัตตมีวิภัตติว่า ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ และใน
32,0021,002,สุตบทอื่น ๆ จากพระอภิธรรมนี้ ก็ท่านิเทศด้วยสัตตมีวิภัตติว่า
32,0021,003,ยสฺมึ สมเย ภิกฺขเว ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมทิ ส่วนในพระวินัยท่านทำ
32,0021,004,นิเทศด้วยตติยาวิภัตติว่า เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา ?
32,0021,005,ตอบว่า เพราะในพระอภิธรรมและพระวินัยนั้น มีอรรถเป็น
32,0021,006,อย่างนั้น ส่วนในพระสูตรนี้มีอรรถเป็นอย่างอื่น.. จริงอยู่ บรรดา
32,0021,007,ปิฎกทั้ง ๓ นั้น ในพระอภิธรรมและในสุตตบทอื่นจากพระอภิธรรมนี้
32,0021,008,ย่อมสำเร็จอรรถแห่งอธิกรณะและอรรถแห่งการกำหนดภาวะด้วย
32,0021,009,ภาวะ. ก็อธิกรณะ. คือสมัยที่มีกาลเป็นอรรถและมีประชุมเป็นอรรถ
32,0021,010,และภาวะแห่งธรรมมีผัสสะเป็นต้น ท่านกำหนดด้วยภาวะแห่งสมัย
32,0021,011,กล่าวคือขณะความพร้อมเพรียงและเหตุแห่งธรรมมีผัสสะเป็นต้น
32,0021,012,ที่ตรัสไวในพระอภิธรรมและสุตตบทอื่นนั้น ๆ เพราะฉะนั้นเพื่อส่อง
32,0021,013,อรรถนั้น ท่านจึงท่านิเทศด้วยสัตตมีวิภัตติในพระอภิธรรมและใน
32,0021,014,สุตตบทอื่นนั้น. ส่วนในพระวินัย ย่อมสำเร็จอรรถแห่งเหตุแลอรรถ
32,0021,015,แห่งกรณะ. จริงอยู่ สมัยแห่งการทรงบัญญัติสิกขาบทนั้นใด แม้
32,0021,016,พระสาวกมีพระสารีบุตรเป็นต้น ก็ยังรู้ยาก โดยสมัยนั้นอันเป็นเหตุ
32,0021,017,และเป็นกรณะ พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงบัญญัติสิกขาบททั้งหลาย
32,0021,018,และทรงพิจารณาถึงเหตุแห่งการทรงบัญญัติสิกขาบท ได้ประทับ
32,0021,019,อยู่ในที่นั้น ๆ เพราะฉะนั้น เพื่อส่องความข้อนั้น ท่านจึงทำนิเทศ
32,0021,020,ด้วยตติยาวิภัตติในพระวินัยนั้น. ส่วนในพระสูตรนี้และพระสูตรอื่น
32,0021,021,ที่มีกำเนิดอย่างนี้ ย่อมสำเร็จอรรถแห่งอัจจันตะสังโยคะ จริงอยู่
32,0021,022,พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงพระสูตรนี้ หรือพระสูตรอื่น ตลอด