Book,Page,LineNumber,Text
32,0032,001,พระภาคเจ้า ตรัสเรียกภิกษุเหล่านั้นว่า ภิกฺขเว. บทว่า อญฺํ ความว่า
32,0032,002,ซึ่งรูปอื่น จากรูปหญิงที่พึงกล่าวในบัดนี้. บทว่า เอกรูปปํปิ แปลว่า
32,0032,003,รูปแม้อย่างหนึ่ง. บทว่า สมนุปสฺสามิ ความว่า สมนุปัสสนา ๒ อย่าง
32,0032,004,คือญาณสมนุปัสสนา ๑ ทิฏฐิสมนุปัสสนา ๑. ในสองอย่างนั้น
32,0032,005,อนุปัสสนาว่า ภิกษุเห็นโดยเป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่เห็นโดยเป็นของ
32,0032,006,เที่ยง นี้ชื่อว่า ญาณสมนุปัสสนา. ส่วนอนุปัสสนามีอาทิว่า ภิกษุ
32,0032,007,พิจารณาเห็นรูปโดยเป็นอัตตา ชื่อว่าทิฏฐิสมนุปัสสนา. ในสองอย่าง
32,0032,008,นั้น ในที่นี้ ท่านประสงค์เอาญาณสมนุปัสสนา. พึงทราบการเชื่อม
32,0032,009,บทนี้ด้วย น อักษร. ท่านกล่าวอธิบายไว้ดังนี้ว่า ภิกษุทั้งหลาย
32,0032,010,เราแม้เมื่อตรวจดู ด้วยสัพพัญญุตญาณ ก็มองไม่เห็น แม้รูปอื่นสัก
32,0032,011,อย่างหนึ่ง.
32,0032,012,บทว่า ยํ เอวํ ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ ความว่า รูปใด
32,0032,013,เกาะกุมทำกุศลจิตอันเป็นไปในภูมิ ๔ ของบุรุษผู้หนักในรูป
32,0032,014,ให้สิ้นไปตั้งอยู่. จริงอยู่ การยึดถือ ชื่อว่า การยึดมั่น ได้ในคำว่า
32,0032,015,ยึดมั่นกายหญิงทั้งหมด เป็นต้น. ชื่อว่า ให้สิ้นไป ได้ในคำมีอาทิว่า
32,0032,016,ภิกษุทั้งหลาย อนิจจสัญญา อันภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำ
32,0032,017,กามราคะทั้งปวงให้สิ้นไป. ใน๑ที่นี้ ก็ถูกทั้งสองอย่าง. ในการยึดถือและ
32,0032,018,การให้สิ้นไปทั้งสองอย่างนั้น รูปนี้เมื่อถือเอากุศลจิตอันเป็นไปในภูมิ ๔