Book,Page,LineNumber,Text
33,0026,001,นอนบนเบาะเก่า ๆ ลงข้ามแม่น้ำ ด้วยหมายจะพาลูกคนนี้ไป. เวลาที่
33,0026,002,นางถึงกลางแม่น้ำ เหยี่ยวตัวหนึ่งก็มาโฉบเด็กไปด้วยสำคัญว่า เป็นก้อน
33,0026,003,เนื้อ. นางก็ยกมือไล่เหยี่ยว. ลูกคนโตเห็นนางทำมืออย่างนั้น สำคัญว่า
33,0026,004,แม่เรียก ก็ลงข้ามแม่น้ำ ตกไปในกระแสน้ำ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำ
33,0026,005,เมื่อนางยังข้ามไม่ถึงนั่นเอง เหยี่ยวก็โฉบเอาลูกคนเล็กนั้นไป. นางเศร้า-
33,0026,006,โศกเป็นกำลัง ในระหว่างทาง ก็เดินขับเพลงรำพัน ดังนี้ว่า
33,0026,007,อุโภ ปุตฺตา กาลกตา ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต.
33,0026,008,บุตรสองคนก็ตาย สามีเราก็ตายเสียที่หนทาง.
33,0026,009,นางรำพันอย่างนี้ จนถึงกรุงสาวัตถี ไปหาคนที่ชอบพอกันของสกุล
33,0026,010,ก็กำหนดจำเรือนของตนไม่ได้ ด้วยอำนาจความเศร้าโศก สอบถามว่า
33,0026,011,ที่ตรงนี้ มีสกุล ชื่ออย่างนี้ เรือนอยู่ไหนเล่า. ผู้คนทั้งหลายกล่าวว่า
33,0026,012,เจ้าสอบถามถึงสกุลนั้นจักทำอะไร เรือนที่อยู่ของคนเหล่านั้น ล้มแล้ว
33,0026,013,เพราะลมกระหน่ำ คนเหล่านั้นในเรือนหลังนั้น เสียชีวิตหมด เขาเผา
33,0026,014,คนเหล่านั้นบนเชิงตะกอนอันเดียวกัน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ดูเสียสิ กลุ่ม
33,0026,015,ควันไฟยังปรากฏอยู่นั่น. นางฟังคำบอกเล่าแล้ว ก็พูดว่า พวกท่านพูด
33,0026,016,อะไร ก็ทรงผ้านุ่งของตนไว้ไม่ได้ ทำนองวันเกิดนั่นแหละ ประคอง
33,0026,017,สองแขนร่ำไห้ เดินไปสถานที่เชิงตะกอนเผาเหล่าญาติ คร่ำครวญเพลง
33,0026,018,รำพันพิลาปจนครบคาถาว่า
33,0026,019,อุโภ ปุตฺตา กาลกตา ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต
33,0026,020,มาตา ปิตา จ ภาตา จ เอกจิตฺตกสฺมึ ฑยฺหเร.
33,0026,021,บุตรสองคนก็ตาย สามีเราก็ตายเสียที่หนทาง
33,0026,022,มารดาบิดาและพี่ชาย เขาก็เผาที่เชิงตะกอนเดียวกัน.