Book,Page,LineNumber,Text 33,0036,001,เหตุในเรื่องนี้. เอามือจุ่มลงในน้ำ ก็รู้ว่าน้ำร้อน จึงนำหม้อน้ำหม้อหนึ่งมา 33,0036,002,บรรจุน้ำ. ที่บรรจุแล้ว ๆ ก็เต็มน้ำ. ขณะนั้นภิกษุณีทั้งหมดก็รู้ว่า นางตั้งอยู่ 33,0036,003,ในพระอรหัต ที่อ่อนกว่าก็หมอบลงด้วยเบญจางค์ประดิษฐ์ขอขมาก่อน 33,0036,004,ว่า แม่เจ้า พวกเราไม่พิจารณาแล้วกล่าวเสียดสีแม่เจ้า ขอแม่เจ้าโปรด 33,0036,005,อดโทษแก่พวกเราด้วยเถิด. ฝ่ายเหล่าพระเถรีที่แก่กว่า ก็นั่งกระหย่ง 33,0036,006,ขอขมาว่า โปรดอดโทษด้วยเถิดแม่เจ้า. จำเดิมแต่นั้น คุณของพระเถรี 33,0036,007,ก็ปรากฏไปว่า พระเถรีแม้บวชเวลาแก่เฒ่าก็ดำรงอยู่ในผลอันเลิศในเวลา 33,0036,008,ไม่นาน เพราะเป็นผู้ปรารภความเพียร. กำลัง พระศาสดาประทับนั่ง 33,0036,009,ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาเหล่าภิกษุณีไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ 33,0036,010,ตามลำดับ จึงทรงสถาปนาพระโสณาเถรีไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็น 33,0036,011,เลิศกว่าพวกภิกษุณีสาวิกา ผู้ปรารภความเพียร แล. 33,0036,012,จบอรรถกถาสูตรที่ ๗ 33,0036,013,

อรรถกถาสูตรที่ ๘

33,0036,014,

๘. ประวัติพระสกุลาเถรี

33,0036,015,ในสูตรที่ ๘ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้. 33,0036,016,ด้วยบทว่า ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ สกุลา ท่านแสดงว่า พระ- 33,0036,017,สกุลาเถรี เป็นเลิศกว่าพวกภิกษุณีสาวิกาผู้มีจักษุทิพย์. 33,0036,018,ได้ยินว่า พระสกุลาเถรีนี้ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ 33,0036,019,บังเกิดในเรือนสกุล ต่อมากำลังฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระ- 33,0036,020,ศาสดากำลังทรงสถาปนาภิกษุณีรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นเลิศ 33,0036,021,กว่าพวกภิกษุณีสาวิกาผู้มีทิพยจักษุ ทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนา