Book,Page,LineNumber,Text 33,0049,001,ปฏิสนธิในเรือนสกุล กรุงหังสวดี ในกาลต่อมาฟังธรรมกถาของพระศาสดา 33,0049,002,เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุณีรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศ 33,0049,003,ของเหล่าภิกษุณีสาวิกาผู้บรรลุอภิญญาอย่างใหญ่ จึงทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้น 33,0049,004,ไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. นางเวียนว่ายตายเกิดในเทวดาและมนุษยโลก 33,0049,005,ตลอดแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้ถือเอาปฏิสนธิในพระราชนิเวศน์ 33,0049,006,พระเจ้าสุปปพุทธะ. เหล่าพระประยูรญาติเฉลิมพระนามว่า ภัททากัจจานา. 33,0049,007,พระนางเจริญวัยได้อภิเษกเป็นมเหสีพระโพธิสัตว์. ต่อมาพระนางได้ 33,0049,008,ประสูติพระโอรสพระนามว่า พระราหุลกุมาร. ในวันที่พระราหุลกุมาร 33,0049,009,ประสูติแล้ว พระโพธิสัตว์เสด็จออกทรงผนวช ทรงบรรลุพระสัพพัญญุต- 33,0049,010,ญาณที่โคนต้นโพธิ เมื่อจะกระทำการอนุเคราะห์ชาวโลก เสด็จมาถึงกรุง 33,0049,011,กบิลพัสดุ์โดยลำดับ ได้ทรงกระทำการสงเคราะห์พระญาติ ต่อมาเมื่อ 33,0049,012,พระเจ้าสุทโธทนมหาราชปรินิพพานแล้ว พระนางมหาปชาบดีโคตมี 33,0049,013,พร้อมกับมาตุคาม ๕๐๐ นาง ขอบรรพชาในสำนักของพระศาสดา. พระ- 33,0049,014,มารดาของพระราหุลก็ดี พระนางรูปนันทาชนบทกัลยาก็ดี ก็พากันไปยัง 33,0049,015,สำนักของพระเถรี บวชแล้ว. นางจำเดิมแต่บวชแล้วได้ปรากฏชื่อว่า 33,0049,016,ภัททากัจจนาเถรี. ต่อนาพระนางเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้วเป็น 33,0049,017,ผู้ช่ำชองชำนาญในอภิญญาทั้งหลาย นั่งขัดสมาธิครั้งเดียว ระลึกชาติได้ 33,0049,018,ถึงอสงไขยหนึ่งยิ่งด้วยแสนกัปโดยการระลึกถึงครั้งเดียว. เมื่อคุณความดี 33,0049,019,นั้นของนางปรากฏชัดแล้ว พระศาสดาประทับนั่งในพระเชตวัน เมื่อ 33,0049,020,ทรงสถาปนาภิกษุณีทั้งหลายไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะต่าง ๆ ตามลำดับ จึง 33,0049,021,ทรงสถาปนาพระเถรีนี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าภิกษุณีสาวิกา 33,0049,022,ผู้บรรลุอภิญญาใหญ่ แล. 33,0049,023,จบอรรถกถาสูตรที่ ๑๑