Book,Page,LineNumber,Text
35,0027,001,ศัพท์ว่า อิติ ในบทว่า อิติภวาภวเหตุ นี้เป็นนิบาตลงในอรรถว่าตัวอย่าง
35,0027,002,อธิบายว่า ตัณหาย่อมเกิดขึ้นเพราะความมีน้อยมีมากเป็นเหตุ เหมือนที่เกิดขึ้น
35,0027,003,เพราะมีจีวรเป็นต้น เป็นเหตุ ส่วนในบทว่า ภวาภโว นี้ประสงค์เอาเนยใส
35,0027,004,และเนยข้นเป็นต้นที่ประณีตและประณีตกว่ากัน. อาจารย์บางพวกกล่าวว่าภพ
35,0027,005,ที่ประณีตกว่าและประณีตที่สุดในสัมปัตติภพดังนี้ก็มี.
35,0027,006,บทว่า ตณฺหาทุติโย ความว่า ก็สัตว์นี้ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ
35,0027,007,ที่ตัวสัตว์เองไม่รู้จุดจบ มิใช่ท่องเที่ยวไปแต่ลำพังเท่านั้น ยิ่งได้ตัณหาเป็น
35,0027,008,เพื่อนท่องเที่ยวไปด้วย ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า ตณฺหาทุติโย ดังนี้ . ในบทว่า
35,0027,009,อิตฺถภาวญฺถาภาวํ นี้ได้แก่อัตภาพนี้ ชื่อว่า อิตถภาวะเป็นอย่างนี้ อัตภาพ
35,0027,010,ในอนาคต ชื่อว่าอัญญถาภาวะเป็นอย่างอื่น อีกอย่างหนึ่ง อัตภาพแม้อื่นที่
35,0027,011,เป็นอย่างนี้ ชื่อว่า อิตถภาวะเป็นอย่างนี้ ที่มิใช่เป็นอย่างนี้ ชื่อว่าอัญญถาภาวะ
35,0027,012,เป็นอย่างอื่น. ซึ่งเป็นอย่างนี้และอย่างอื่น. บทว่า สํสารํ ได้แก่ลำดับขันธ์
35,0027,013,ธาตุ อายตนะ. บทว่า นาติวตฺตติ แปลว่า ไม่ล่วงพ้นไป. บทว่า เอตมาทีนวํ
35,0027,014,ตฺวา ความว่า ภิกษุรู้ถึงโทษในขันธ์ที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันอย่างนี้
35,0027,015,แล้ว. บทว่า ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ความว่า รู้ถึงตัณหาอย่างนี้ว่า
35,0027,016,ตัณหานี้ เป็นเหตุเกิด เป็นแดงเกิด เป็นเหตุแห่งวัฏทุกข์. ความที่ภิกษุนี้
35,0027,017,เจริญวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต ทรงแสดงด้วยเหตุประมาณเท่านี้ . บัดนี้
35,0027,018,เมื่อทรงยกย่องภิกษุขีณาสพนั้น จึงตรัสว่า วิตฺตณฺโห เป็นอาทิ. บรรดาบท
35,0027,019,เหล่านั้น บทว่า อนาทาโน ได้แก่ ไม่ถือมั่น. บทว่า สโต ภิกฺขุ
35,0027,020,ปริพฺพเช ความว่า ภิกษุผู้ขีณาสพถึงความไพบูลย์ด้วยสติสัมปชัญญะ พึงมี
35,0027,021,สติสัมปชัญญะเที่ยวไปอยู่. ดังนั้น ในสูตรตรัสถึงวัฏฏะ ในคาถา ตรัสทั้งวัฏฏะ
35,0027,022,ทั้งวิวัฏฏะ (โลกิยะและโลกุตระ) ด้วยประการฉะนี้.
35,0027,023,จบอรรถกถาตัณหาสูตรที่ ๙