Book,Page,LineNumber,Text
38,0014,001,พ. ดูก่อนอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีความสำคัญ
38,0014,002,อย่างนี้ว่า นั่นสงบ นั่นประณีต คือ ความระงับสังขารทั้งปวง ความ
38,0014,003,สละคืนอุปธิกิเลสทั้งปวง ความสิ้นแห่งตัณหา ความปราศจากความกำหนัด
38,0014,004,ความดับ นิพพาน ดังนี้ ดูก่อนอานนท์ ตนไม่พึงมีความสำคัญในปฐวี-
38,0014,005,ธาตุว่าเป็นปฐวีธาตุเป็นอารมณ์ ไม่พึงมีความสำคัญในอาโปธาตุว่าเป็น
38,0014,006,อาโปธาตุเป็นอารมณ์... ไม่พึงมีความสำคัญในโลกหน้าว่าเป็นโลกหน้า
38,0014,007,เป็นอารมณ์ ก็แต่ว่าพึงเป็นผู้มีสัญญา การได้สมาธิเห็นปานนั้น พึงมีแก่
38,0014,008,ภิกษุได้อย่างนี้แล.
38,0014,009,จบสมาธิสูตรที่ ๖
38,0014,010,
๗. สาริปุตตสูตร
38,0014,011,ว่าด้วยไม่พึงสำคัญปฐวีธาตุว่าเป็นปฐวีธาตุเป็นต้น
38,0014,012,[๗] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึง
38,0014,013,ที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึง
38,0014,014,กันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า
38,0014,015,ดูก่อนท่านสารีบุตรผู้มีอายุ ตนไม่พึงมีความสำคัญในปฐวีธาตุว่าเป็น
38,0014,016,ปฐวีธาตุเป็นอารมณ์ ไม่พึงมีความสำคัญในอาโปธาตุว่าเป็นอาโปธาตุเป็น
38,0014,017,อารมณ์... ไม่พึงมีความสำคัญในโลกหน้าว่าเป็นโลกหน้าเป็นอารมณ์
38,0014,018,ก็แต่ว่าพึงเป็นผู้มีสัญญา การได้สมาธิเห็นปานนั้น พึงมีแก่ภิกษุหรือหนอ.
38,0014,019,ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า ดูก่อนท่านอานนท์ ตนไม่พึงมีความ
38,0014,020,สำคัญในปฐวีธาตุว่าเป็นปฐวีธาตุเป็นอารมณ์ ฯลฯ ไม่พึงมีความสำคัญ
38,0014,021,ในโลกหน้าว่าเป็นโลกหน้าเป็นอารมณ์ ก็แต่ว่าพึงเป็นผู้มีสัญญา การได้