Book,Page,LineNumber,Text
38,0038,001,ไปในภูมิ ๔ มิใช่หรือ ก็การาปกอัปปมาทนี้เป็นยอดแห่งกุศลธรรมเหล่า
38,0038,002,นั้นได้อย่างไร. ตอบว่า เพราะอรรถว่าเป็นเหตุให้ได้. จริงอยู่ กุศลธรรม
38,0038,003,เหล่านั้น บุคคลย่อมได้ด้วยความไม่ประมาท เพราะฉะนั้น ความไม่ประ-
38,0038,004,มาทนั้น จึงชื่อว่าเป็นยอดแห่งกุศลธรรมเหล่านั้น ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
38,0038,005,กุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีความไม่ประมาทเป็นมูล. บทว่า ชงฺคลานํ
38,0038,006,แปลว่า ผู้สัญจรไปตลอดพื้นแผ่นดิน. บทว่า ปาณานํ ได้แก่ สัตว์มีเท้า.
38,0038,007,บทว่า ปทชาตานิ แปลว่า รอยเท้า. บทว่า สโมธานํ คจฺฉนฺติ
38,0038,008,แปลว่า ย่อมรวมลง ใส่ลง. บทว่า อคฺคมกฺขายติ แปลว่า ท่านกล่าว
38,0038,009,ว่าประเสริฐ. บทว่า ยทิทํ มหนฺตตฺเตน ความว่า ท่านกล่าวว่าเลิศ
38,0038,010,เพราะเป็นรอยเท้าใหญ่ ไม่ใช่กล่าวโดยคุณ. บทว่า วสฺสิกํ ได้แก่ ดอก
38,0038,011,มะลิเขาว่า พระเจ้าภาติยมหาราชทรงสดับพระสูตรนี้แล้ว ทรงประสงค์จะ
38,0038,012,ทดลอง จึงให้เอาดอกไม้หอมมาอบด้วยของหอม ๔ ชนิด ณ ห้อง ๆ หนึ่ง
38,0038,013,วางกำดอกมะลิไว้กลางห้อง ๆ หนึ่ง ทำดอกไม้ที่เหลือเป็นกำวางไว้รอบ ๆ
38,0038,014,กำดอกมะลินั้น ทรงปิดพระทวารเสียแล้วเสด็จออกไปข้างนอก เมื่อทรง
38,0038,015,พักอยู่ข้างนอกครู่หนึ่งแล้ว เปิดพระทวารเสด็จเข้าไป กลิ่นดอกมะลิ
38,0038,016,กระทบพระนาสิกก่อนดอกไม้ทั้งหมด. ท้าวเธอลงบรรทม ณ พื้นแท่นใหญ่
38,0038,017,นั้นแล ผินพระพักตร์ไปทางพระมหาเจดีย์ ทรงไหว้พระเจดีย์ ด้วยทรง
38,0038,018,ยอมรับว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อตรัสว่า ดอกมะลิเป็นยอดแห่งบุปผ-
38,0038,019,คันธชาติเหล่านั้น ชื่อว่าตรัสไว้ชอบแล้ว. บทว่า กุฑฺฑราชาโน ได้แก่
38,0038,020,พระราชาน้อย. ปาฐะว่า กุฏราชาโน ดังนี้ก็มี.
38,0038,021,จบอรรถกถาอัปปมาทสูตรที่ ๕