Book,Page,LineNumber,Text 39,0015,001,ดูก่อนอานนท์ ก็สัตว์ทั้งหลายที่มีชาติความเกิด 39,0015,002,เป็นธรรมดา อาศัยเราตลาคตเป็นกัลยาณมิตร ย่อม 39,0015,003,หลุดพ้น จากชาติดังนี้ ฉันใด แต่ในที่นี้ บุคคลเมื่อ 39,0015,004,จะหลุดพ้น ด้วยอานุภาพแห่งสรณะ คือพระพุทธเจ้า 39,0015,005,พระธรรมและพระสงฆ์ ท่านก็กล่าวว่า บุคคลอาศัย 39,0015,006,สรณะนี้ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ ทั้งปวง ดังนี้ ก็ฉันนั้น. 39,0015,007,ความที่พระพุทธเจ้าเป็นคมนียะ ควรถึงก็ไม่ถูก ความที่สรณะเป็น 39,0015,008,คมนียะควรถึงก็ไม่ถูก ความที่พระพุทธเจ้าและสรณะทั้งสอง เป็นคมนียะควร 39,0015,009,ถึงก็ไม่ถูก แม้โดยประการทั้งปวงอย่างนี้ คมนียะสิ่งที่ควรถึงของผู้ถึงสรณคมน์ 39,0015,010,ที่ท่านอธิบายว่า ข้าพเจ้าถึงสิ่งที่พึงปรารถนา ควรกล่าวถึง ต่อนั้น ก็ควร 39,0015,011,กล่าวข้อยุติคือข้อที่ถูก ในเรื่องนี้ ดังนั้น ข้าพเจ้าจะกล่าวข้อยุติดังต่อไปนี้ 39,0015,012,ในข้อยุตินี้ พระพุทธเจ้าเท่านั้นเป็นคมนียะ แต่เพื่อแสดงอาการคือ 39,0015,013,การถึง คำกล่าวถึงสรณะนั้นมีว่า ข้าพเจ้าถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ พระ- 39,0015,014,พุทธเจ้าพระองค์นั้นเป็นสรณะของข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เป็น 39,0015,015,ปรายนะนำหน้าของข้าพเจ้า เป็นผู้กำจัดทุกข์ เป็นผู้ทรงประโยชน์ ข้าพเจ้า 39,0015,016,ถึง คบ เสพ เข้าใกล้ชิดพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ด้วยความประสงค์ดังกล่าว 39,0015,017,มานี้ หรือว่าข้าพเจ้ารู้ทราบอย่างนี้ จริงอยู่ คติเป็นประโยชน์ของธาตุเหล่าใด 39,0015,018,แม้ความรู้ก็เป็นประโยชน์ของธาตุเหล่านั้น. 39,0015,019,ถ้าผู้ทักท้วงกล่าวว่า ข้อนั้นไม่ถูก เพราะไม่ประกอบ อิติ ศัพท์ คำ 39,0015,020,ทักท้วงนั้นก็ไม่ถูก ข้อยุติที่ถูกในเรื่องนั้น พึงมีดังนี้.