Book,Page,LineNumber,Text
41,0035,001,แห่งหนึ่ง ทรงเหน็ดเหนื่อยเพราะลมและแดด ได้สวรรคตในที่นั้นนั่งเอง
41,0035,002,"ในเวลากลางคืน. เมื่อราตรีสว่างแล้ว, ประชาชนได้ยินเสียงหญิงคนนั้น"
41,0035,003,"คร่ำครวญอยู่ว่า ""ข้าแต่สมมติเทพ ผู้จอมแห่งชาวโกศล พระองค์ไม่มี"
41,0035,004,"ที่พึ่งแล้ว"" จึงกราบทูลแด่พระราชา. ท้าวเธอ ทรงรับสั่งให้ทำสรีรกิจ"
41,0035,005,ของพระเจ้าลุง ด้วยสักการะใหญ่.
41,0035,006,
พระเจ้าวิฑูฑภะเสด็จไปพบพระศาสดา
41,0035,007,แม้พระเจ้าวิฑูฑภะ ได้ราชสมบัติแล้ว ทรงระลึกถึงเวรนั้น ทรง
41,0035,008,"ดำริว่า "" เราจักยังเจ้าศากยะแม้ทั้งหมดให้ตาย "" ดังนี้แล้ว จึงเสด็จออก"
41,0035,009,ไปด้วยเสนาใหญ่.
41,0035,010,ในวันนั้น พระศาสดาทรงตรวจดูโลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นความ
41,0035,011,"พินาศแห่งหมู่พระญาติแล้ว ทรงดำริว่า "" เราควรกระทำญาติสังคหะ"""
41,0035,012,ในเวลาเช้า เสด็จเที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต เสด็จกลับจากบิณฑบาตแล้ว
41,0035,013,ทรงสำเร็จสีหไสยาในพระคันธกุฎี ในเวลาเย็นเสด็จไปทางอากาศ ประทับ
41,0035,014,นั่งที่โคนไม้ มีเงาปรุโปร่ง ใกล้เมืองกบิลพัสดุ์.
41,0035,015,แต่นั้นไป มีต้นไทรเงาสนิทต้นใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ในรัชสีมาของพระ-
41,0035,016,เจ้าวิฑูฑภะ. พระเจ้าวิฑูฑภะทอดพระเนตรเห็นพระศาสดา จึงเสด็จเข้า
41,0035,017,"ไปเฝ้า ถวายบังคมแล้ว กราบทูลว่า "" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะ"
41,0035,018,เหตุไร พระองค์จึงประทับนั่งแล้วที่โคนไม้เงาปรุโปร่งนี้ ในเวลาร้อน
41,0035,019,"เห็นปานนี้, ขอพระองค์โปรดประทับนั่งที่โคนไทร มีเงาอันสนิทนั่นเถิด"
41,0035,020,"พระเจ้าข้า"" เมื่อพระศาสดาตรัสตอบว่า ""ช่างเถิด มหาบพิตร, ชื่อว่า"
41,0035,021,"เงาของหมู่พระญาติเป็นของเย็น,"" จึงทรงดำริว่า ""พระศาสดาจักเสด็จ"