Book,Page,LineNumber,Text 43,0019,001,ฉันนั้นเหมือนกัน เกิดขึ้นภายในของสัตว์เหล่านี้แล้ว ย่อมให้สัตว์เหล่านั้น 43,0019,002,เกิดในอบายมีนรกเป็นต้น ให้ถึงความพินาศ ' ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระ- 43,0019,003,คาถานี้ว่า :- 43,0019,004,๓. อยสา ว มลํ สมุฏฺ€ิตํ 43,0019,005,ตหุฏฺ€าย ตเมว ขาทติ 43,0019,006,เอวํ อติโธนจารินํ 43,0019,007,สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตึ. 43,0019,008,"""สนิมตั้งขึ้นแต่เหล็ก ครั้นตั้งขึ้นแต่เหล็กแล้ว" 43,0019,009,ย่อมกัดเหล็กนั่นเอง ฉันใด; กรรมทั้งหลายของตน 43,0019,010,ย่อมนำบุคคลผู้มักประพฤติล่วงปัญญาชื่อว่าโธนา ไป 43,0019,011,"สู่ทุคติ ฉันนั้น.""" 43,0019,012,

แก้อรรถ

43,0019,013,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อยสา คือแต่เหล็ก. บทว่า สมุฏฺ€ิตํ 43,0019,014,คือตั้งขึ้นแล้ว. บทว่า ตทุฏฺ€าย คือครั้นตั้งขึ้นแต่เหล็กนั้น. 43,0019,015,ในบทว่า อติโธนจารินํ บัณฑิตพึงทราบวินิจฉัยดังนี้. 43,0019,016,"ปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาปัจจัย ๔ ว่า "" การบริโภคนี้ เป็นประ-" 43,0019,017,"โยชน์ด้วยปัจจัยเหล่านี้"" แล้วบริโภค พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าโธนา," 43,0019,018,บุคคลประพฤติก้าวล่วงปัญญาชื่อว่าโธนานั่น ชื่อว่า อติโธนจารี. 43,0019,019,"พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเป็นคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า "" สนิมเกิดขึ้นแต่" 43,0019,020,เหล็ก ตั้งขึ้นแต่เหล็ก ย่อมกัดเหล็กนั่นเอง ฉันใด; กรรมทั้งหลายของ 43,0019,021,ตน คือกรรมเหล่านั้นชื่อว่าเป็นของตนนั่นแหละ เพราะตั้งขึ้นในตน