Book,Page,LineNumber,Text
43,0037,001,ภัณฑะทั้งหลาย ที่บุคคลอื่นรักษาและคุ้มครองแล้ว ชื่อว่าย่อมประพฤติ
43,0037,002,นอกทาง.
43,0037,003,บทว่า สุราเมรยปานํ ได้แก่ การดื่มซึ่งสุราและเมรัยอย่างใดอย่าง
43,0037,004,หนึ่งนั่นเทียว. บทว่า อนุยุญฺชติ คือ ย่อมเสพ ได้แก่ ย่อมกระทำ
43,0037,005,ให้มาก.
43,0037,006,สองบทว่า มูลํ ขนติ ความว่า ปรโลกจงยกไว้. ก็ในโลกนี้นั่นแล
43,0037,007,นระนี้จำนองหรือขายขาด แม้ซึ่งทรัพย์อันเป็นต้นทุนมีนาและสวนเป็นต้น
43,0037,008,อันเป็นเครื่องที่จะพึงดำรง (ตน) อยู่ได้ ดื่มสุราอยู่ ชื่อว่าย่อมขุดซึ่ง
43,0037,009,รากเหง้าของตน คือเป็นคนหาที่พึ่งมิได้. เป็นคนกำพร้าเที่ยวไป.
43,0037,010,พระศาสดา ย่อมตรัสเรียกบุคคลผู้ทำกรรมคือทุศีล ๕ ด้วยคำว่า
43,0037,011,เอวํ โภ. บทว่า ปาปธมฺมา ได้แก่ ผู้มีธรรมลามก. บทว่า อสญฺตา
43,0037,012,ได้แก่ ผู้เว้นแล้วจากการสำรวม มีการสำรวมทางกายเป็นต้น. พระบาลีว่า
43,0037,013,อเจตสา ดังนี้บ้าง. ความว่า ผู้ไม่มีจิต.
43,0037,014,สองบทว่า โลโภ อธมฺโม จ ได้แก่ โลภะและโทสะ. แท้จริง
43,0037,015,กิเลสชาตแม้ทั้งสองนี้ เป็นอกุศลโดยแท้.
43,0037,016,บาทพระคาถาว่า จิรํ ทุกฺขาย รนฺธยุํ ความว่า ธรรมเหล่านี้
43,0037,017,จงอย่าฆ่า อยู่ย่ำยี (ซึ่งท่าน) เพื่อประโยชน์แก่ทุกข์ทั้งหลายมีทุกข์ใน
43,0037,018,นรกเป็นต้น ตลอดกาลนาน.
43,0037,019,ในกาลจบเทศนา อุบาสก ๕ คนนั้นตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว.
43,0037,020,พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์ แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
43,0037,021,เรื่องอุบาสก ๕ คน จบ.